กระดานสนทนาเว็บไซต์ ศิษย์หลวงพ่อกวย

เรื่องเล่าประสบการณ์ => เรื่องเล่าประสบการณ์ เรื่องเล่า เรื่องราวปาฎิหาริย์เกี่ยวกับหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม => ข้อความที่เริ่มโดย: chusak ที่ กันยายน 07, 2011, 12:22:21 pm

หัวข้อ: อภินิหารรูปถ่ายหลวงพ่อ กวย ชุตินธโร ตอน"พิเศษ"
เริ่มหัวข้อโดย: chusak ที่ กันยายน 07, 2011, 12:22:21 pm
                               ....กราบสวัสดีพี่ๆน้องทุกๆคน....
                   ....เนื่องจากเมื่อวานนี้ ข้าพเจ้าได้พิมพ์เล่าเรื่องราวของข้าพเจ้าในตอนที่ชื่อว่า"อภินิหารรูปถ่าย หลวงพ่อ กวยชุตินธโร ในตอนที่ 7 เสร็จสิ้นแล้ว โดยใช้เวลา ตั้งแต่ 8 โมง เสร็จ ประมาณ 4 โมงเย็น ซึ่งเป็นใจความที่ยาวมากพอสมควร แต่ด้วยเหตุสุดวิสัยจริงๆ ในขณะที่ข้าพเจ้ากำลังจะโพสลง ให้พี่ๆน้องๆได้อ่านฟัง อยู่ๆ มือของข้าพเจ้าก็ดันไปโดนปุ่ม อะไรเข้าก็ไม่ทราบ ผลจึงปรากฏว่า ข้อความทั้งหมดที่ข้าพเจ้าได้พิมพ์ไว้ก็ได้อันตทานหายไปจากจอคอมฯหาเท่าไรก็หาไม่พบ  เล่นเอาหน้าของข้าพเจ้านั้นหดเหลืออยู่เพียงแค่เซนเดียวเลย ข้าพเจ้าต้องขออภัย พี่ๆน้องๆที่ ตั้งใจเสียและอุตส่าเวลาเข้ามาอ่าน เรื่องราว ประสบการณ์ของข้าพเจ้า และไม่เคยมีใครที่พิมพ์ตำหนิและต่อว่าข้าพเจ้าเลยสักครั้ง น่าเสียดายจริงๆเพราะข้าพเจ้าตั้งใจพิมพ์มากๆ..แต่เพื่อเป็นการทดแทนข้าพเจ้าจะขอเล่าเรื่อสั้นๆ ที่เป็นประสบการณ์ของแม่ของข้าพเจ้าที่ได้ประสบมา และได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟัง ในตอนที่เกี่ยวกับ "รูปหล่อรุ่นแรกกับหลวงปู่กวยมาช่วยแม่" กราบสวัสดีครับ...
                                 ..."หลวงปู่กวยมาช่วยแม่"...
               ..."แม่" คือ พระอรหันต์ของลูกที่มีอยู่จริงบนโลก" แม่ของข้าพเจ้า มีชื่อว่า นางสมร ทองนุ่ม(สุ่มงาม)แม่เป็นคนบ้านหัวเด่น อำเภอสรรบุรี จ.ชัยนาท  ...เป็นลูกของ พ่อล้วน สุ่มงาม(หลวงตาล้วน วัดหัวเด่น)แม่ผึ่ง สุ่มงาม  มีพี่น้องด้วยกัน 4 แม่ของข้าพเจ้า เป็นคน ที่2 แม่เป็นคนซื่อๆพูดจาตรงไปตรงมา แบบคนเมืองสรรค์ แต่รองว่ารักใครก็รักจริง ข้าพเจ้าดีใจมากที่ทุกวันนี้แม่สนใจในการ"ปฏิบัติธรรม"เข้าวัดถือศีลในวันพระ....ขอให้แม่ได้มีดวงตาเห็น"ธรรม"ด้วยเทอญสาธุ...
            ...เรื่องก็มีอยู่ว่า เดิมทีป่าแถวบ้านข้าพเจ้านั้นยังพอจะมีอยู่ การหาของป่า เช่น กุ้ง หอยปู ปลา ฯลฯ นั้น พ่อกัยแม่ของข้าพเจ้านั้น ไปกัน แบบว่าชอบมาก เพราะท่านมีวิถีแบบชาวบ้านกันมาตั้งแต่เด็ก แม่ท่านเหล่าให้ฟังว่า ในป่าแถวเมืองกาญฯนั้น แต่ก่อนยิ่งอำเภอบ่อพลอย ก็จะมีพวกคนหลายๆชนชาติเข้ามาเพื่อแสวงหาโชคกันมาก(อาถรรพ์แรง) ในการออกป่าในแต่ละครั้ง สิ่งหนึ่งที่เป็นเครื่องยึดเหนียว จิตใจและเป็นที่พึ่งของแม่ ก็คือ รูปหล่อรุ่นแรก ของ"หลวงพ่อ กวย ชุตินธโร" นั้นเอง แม่ไม่เคยเอาห่างตัวเลย ท่านจะต้องอาราธณาไปในทุกๆครั้งที่ออกจากบ้าน ข้าพเจ้าก็คงได้อุปนิสัยนี้มาจากท่านเหมือนๆกัน ครั้งหนึ่ง ช่วงนั้นเป็นช่วงหน้าฝน ชาวบ้านเขาก็ชอบไปหากบหาอึ่งกันในตอนกลางคืน พ่อกับแม่ของข้าพเจ้านั้น ท่านเป็นแฟนพันธืแท้ตัวจริงในเรื่องเหมือนกัน ท่านมีหรือจะพลาด ก้ได้ความว่า พอดีวันนั้นฝนตกหนักมาก ด้วยความที่ท่านนั้นมีเซ้นใน เรื่องนี้ พอตอนหัวค่ำท่านก็รวบรวมเพื่อนๆกัน ประมาณ 10 กว่าคน เพื่อที่คืนนี้นั้นจะได้ออกกันไป่ หา กบ หาอึ่ง กัน ก็เรียกว่าท่านนัดให้มาเจอกันที่หน้าบ้านของข้าพเจ้า พอตกตอนมืดๆ พวกๆของท่านก็มารวมพลกันที่บ้านของข้าพเจ้า เมื่อคนมาครบ แล้วจึงออกเดินทางกัน ซึ่งก็เป็นระยะทางประมาณ 20 กว่ากิโล เห็นจะได้ แต่มันเป็นตอนกลางคืน ก็เลยแลดูว่า ไกลเอาพอสมควรเหมือนกัน แม่ท่านเล่าให้ฟังว่าก่อนไปทุกครั้งท่านก็จะ บอกกล่าวขอบารมี"หลวงพ่อ กวย ชุตินธโร"(เพราะท่านเชื่อว่าคล้องพระของหลวงพ่อไม่ต้องกลัวเรื่องฟ้า)ขอให้ท่านปักปักรักษา ส่วนพ่อของข้าพเจ้าก็เช่นเดียวกัน...
               ...วันนั้นท่านก็ได้เดินทางไป ตกเวลาประมาณ ครึ่งคืน ก็ได้ กันพอสมควร(แถวทุ้งนานางหลอกสุสานสงครามโลกครั้งที่2) ที่นั้นเป็นป่าใหญ่ ก็ได้ปรึษากันว่าจะไปกันอีก ดอน (ป่าอีกแทบหนึ่ง) ก็ขี่รถมอร์เตอร์ไซกันไป ประมาณ6-7 คัน แต่ขณะที่ พวกของท่านกำลัง เดินทางผ่านทุ่งนา อยู่ที่หนึ่งนั้น อยู่พวกของท่าน ก็รีบขี่รถโกยแนบ กันไปอย่างไวมาก ชนิดที่มองตามไฟท้ายไม่ทันเลย พ่อของข้าพเจ้าเมื่อได้เห็นเช่นจึงรีบบิดคันเร่งตามอย่างเต็มที่ กะว่าจะรีบไปให้ทันสักหน่อย แต่ด้วยความที่เป็นรถมอร์เตอร์ไซคันเก่า (อาซี 80) ก็เลยตามไปไม่ทัน แถมรถมอรืเตอร์ไซอยู่ๆมันก็ดันมาดับอีก สตาร์ก้ไม่ยอมติด ก็เลยต้องจอดเพื่อที่จะเปลี่ยนหัวเทียนอันใหม่ แต่พอดียังไม่ทันจะเปลี่ยนทันก็ได้ส่องไฟไปในกลางป่าก็พบว่า ในป่านี้นั้นมี อึ่ง เยอะมากและยังไม่มีใครมาจับกันเลย ก็เห็นว่า เป็นดอกาสที่ดีจึงวางอุปกรณ์ในเรื่องช่างไว้ก่อน และท่านก็ได้ชวนกันเข้าไปจับ อึ่งกันในดงนั้น สถานที่นั้นเป็นลักษณะ มีสระน้ำใหญ่อยู่ 1 สระ แม่และพ่อของข้าพเจ้าจึงตกลงกันว่า  ให้เดินกันคนละฝังแล้ววนไปเจอกันข้างหน้าเป็นลักษณะวงลี แต่ก็มองเฆ้นกันตลอดไม่ไกลกันมาก แม่ของข้าพเจ้าเล่าให้ฟังว่าแกก็เดิน มองดูหา จับ อึ่งของแกไปเรื่อยๆ สักประมาณ 10 นาที ทันใดนั้นสายตาของแกก็ได้ไปพบกับ ชายชราคนหนึ่ง ท่าทางผอมๆสูงๆหัวงอกทั้งหัว แต่งตัวคล้ายคนโบราณ ยืนอยู่ที่ข้างสระน้ำที่กำลังมีฝนตกพร่ำๆอยู่ ทีแรกแกก็นึกว่าคงจะเป็นคนที่เข้ามา หาของป่าเหมืนกัน เพราะแม่ของข้าพเจ้นั้นไม่ใช่คนขี้กลัวอะไร เมื่อเดินเข้าไปไกล้ๆ แม่ของข้าพเจ้าจึงได้พูดทักทายไปว่า "ไง ลุงได้เยอะใหมจ๊ะ"(เสียงเนอๆ)แต่ชายชราคนนั้นกลับไม่ยอมพูจาอะไรกับแกเลย แถมยังทำหน้าดุ มองดูหน้ากลัวมาก จ้องเขม่งนัยตาดุมากมายังแม่ของข้าพเจ้า เหมือนประดุว่า แม่ของข้าพเจ้านั้นทำอะไรผิดกับแกมาอย่างนั้น แล้วแถมยังมองขึ้นไปบนศรีษะของแม่ของข้าพเจ้าอีกด้วย แต่ไม่พูดอะไรเลยสักคำ ตอนนั้นแม่ของข้าพเจ้าก็เริ่มรู้สึกแปลกๆอยู่เหมือนกัน ท่านก็เลย ถ้อยหลังออกมาสักหน่อยหนึ่ง สักพักพอดีพ่อของข้าพเจ้านั้นยืนมองดูอีกฝั่งหนึ่งของสระน้ำ เข้าใจว่าท่านคงสังเกตุถึงสิ่ง ผิดปรกติ เกี่ยวกับกิริยาอาการของแม่ของข้าพเจ้าได้ ท่านก็เลยส่งสัญญาณเป็นลักษณะไฟกระพิบ(ท่านจะรูกันว่าหมายความว่ายังไง)ว่าให้ออกจากที่บริเวรนี้  แม่ของข้าพเจ้าจึงรีบยกมือขึ้นไหว้ชายชราผู้นั้น แล้วค่อยๆเดินถอยหลังมายังพ่อของข้าพเจ้า ซึ่งรออยู่ที่รถมอร์เตอร์ไซที่จอดไว้และเปลี่ยน หัวเทียนใหม่ เสร็จเรียบร้อยแล้ว(พ่อของข้าพเจ้าเคยเป็นรองช่างใหญ่ในเหมืองขุดพลอย)และท่านก็ได้รีบ สะตาร์ตรถ ออกจากที่ตรงนั้นทันที ซึ่งในขณะที่ ท่านกำลังขี่รถออกจากที่บริเวณนั้น ก็ได้เกิดปรากฏการอาเพชขึ้น กล่าวคืออยู่ก็ได้เกิดเป็นลมหมุนที่แรงมาก พัดวนเวียนไปมา อย่างน่ากลัว คล้ายกับว่า มีอะไรสักอย่างกำลังตามท่านทั้งสองอยู่ แม่ของข้าพเจ้าเมื่อได้เห็น ดังนั้นท่านก็ทราบได้ทันทีเลยว่า กำลังโดนอำนาจของสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็นกำลังติดตามอยู่ ท่านจึงใจใช้มือล่วงพระ"รูปหล่อของ หลวงพ่อ กวย ชุตินธโร" ที่ใช้ประจำกายอยู่ออกมาอารธณา แล้วระลึกถึงขอให้บารมีของ หลวงพ่อช่วยปกปักรักษาคุ้มครอง แล้วเมื่อขี่รถไปได้สักระยะ ท่านทั้งสองก็ได้พบกับฝูงหัวของชาวบ้านฝูงหนึ่งที่ได้ล้อมคอกไว้อยู่ชายป่า ท่านก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาหน่อย เพราะ ชะลอยว่า จะได้มีเพื่อน เพราะลมหมุนพัดโบกรุนแรงมากเป็นลักษณะพัดแต่ไม่สามารถเข้ามาไกล้ท่านทั้งสองได้ และทันใดเองอยู่ฝูงวัวทั้งฝูงก็พลัน ร้องกระโตกกระตาก กระโดดหนี้อะไรกันสักอย่าง ตื่นตะหนกตกใจ พ่อกับแม่ของข้าพเจ้าจึงรีบไปจากที่นั้น ใช้เวลาขี่รถประมาณครึ่งชั่วโมง จึงได้พ้นแนวป่านั้นมา และเดินทางกลับถึงบ้านกันอย่างปลอดภัย ข้าพเจ้าเมื่อได้ยินเสียงของท่านมาถึงบ้านกัน ก็ได้ลุกขึ้นเปิดไฟรับท่าน ทีแรกข้าพเจ้าก็มิไดสนใจอะไร ก้เข้าไปนอนต่อแต่ก็ได้ยินเสียง ท่านคุยกัยมาแว่วๆ ก้จับใจความได้ว่า เป้นเหตุการ์ที่ท่านนั้นตกใจกันมาก พอรุ่งเช้าข้าพเจ้าจึงได้เข้าไปสอบถามท่าน ว่าเมื่อคืนนี้มีอะไรกัน ท่านจึงเล่าให้ข้าพเจ้าฟัง สรุปว่าเมื่อคืนนี้ท่านไปเจอดีกัน พอดีป่านั้นท่านไม่รู้มาก่อนเลยว่า ชาวบ้านเข้าลือกันว่า ใครเข้าไปหาของป่าไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน เป็นอันต้องเจอดีกันแทบทุกราย ไม่ตายก็เพี้ยน แต่พวกๆเขารู้พอถึงตรงนั้นเขาเลยไปกันอู้!!!เลย ขนาดตอนกลางววันยังเคยมีคนโดนฟ้าฝ่าตายเลยก็มี เป็นที่ที่แรงมาก  แม่ของข้าพเจ้าเล่าให้ฟังว่าในตอนนั้น ท่านนึกถึงแต่"หลวงพ่อ กวย ชุตินธโร" อย่างเดียวขอให้ม่านคุ้มครอง และท่านก็บอกว่าท่านนั้น เชื่ออย่างหมดใจเลยว่า ถ้าวันนั้น ถ้าท่านไม่ได้ บารมีของ"ลวงพ่อ กวย" ล่ะก็ท่านก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรกัน  ข้าพเจ้าเมื่อได้ยินแม่เล่ามาดังนั้นก็จึงรีบยกมือขึ้นว่า สาธุ ๆๆๆ"หลวงพ่อกวย ชุตินะโร"ท่านศักดิ์สิทธิ์เหลือนเกิน ...แต่ก็นึกโมโหท่านเจ้าที่ที่นั้นเหมือนกัน จะเอากันถึงตายเลย โอ้โห้!!! ตอนแรกกะว่าจะไปปะด้วยสักหน่อย จะจับลงหม้อซะให้ได้ แต่เคราะฆ์ดีที่ ครูบาร์อาจารย์ท่านมาเข้านิมิตบอกเตือนไว้ก่อนว่า อย่าไปยุ่งกับพวก"มเหศักดิ์"เขา อย่างแกนะไม่ได้ขี้ผง
เขาหรอก ทีนี้สติค่อยมาหน่อย เกือบซวยไปแล้วเรา!!!เอ่อ!!!ก็เป็นอันว่า ข้าพเจ้าก็เลยวันหลังแม่จะไปป่าอีกเมื่อไรก็ให้ท่านเอา "มีดหมอ"ของ"หลวงพ่อ กวย ชุตินธโร"ติดตัวไปด้วยเลย แล้วให้คาถา เบิกไพร"ท่านไป พุทโกญจะฯ ข้าพเจ้าจึงค่อยอุ่นใจขึ้นมาหน่อย ...เรื่องราวของแม่ ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้นำมาถ่ายทอดให้พี่ๆน้องๆได้อ่านฟังกัน ในวันนี้ข้าพเจ้าก็ขอจบลงแต่เพียงเท่านี้นะครัย เอาไว้ข้าพเจ้าจะนำมาเล่าให้ฟังกันใหม่ ส่วน "อภินิหารรูปถ่าย"หลวงพ่อ กวย ชุตินธโร" ตอนที่ 7 นั้นก็ขอให้ใจเย็นๆกันนะครับ เดี่ยวจะรีบพิมฑืใหม่มาให้อ่านฟังกัน เสียดายจริงๆไม่น่าทำลบเลยเรา...กราบสวัสดีครับ....     
                          ....ข้าพเจ้า ต้องขอขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาอ่าน แล้วข้าพเจ้าจะนำประสบการณ์มามาถ่ายทอดให้พี่ๆน้องๆได้อ่านฟังกันใหม่ตอนต่อไปซึ่งจะใช้ชื่อว่า"อภินิหารรูปถ่าย หลวงพ่อ กวย ชุตินธโร ตอน 7...
                                                                 ....ด้วยความเคารพเป็นอย่างสูง....
                                                                 ...."คนเมืองกาญฯ”(บ่อพลอย)...
                                                                        ...กราบสวัสดี....
 
หัวข้อ: Re: อภินิหารรูปถ่ายหลวงพ่อ กวย ชุตินธโร ตอน"พิเศษ"
เริ่มหัวข้อโดย: anon ที่ กันยายน 07, 2011, 03:54:48 pm
 :D  อนุโมทนา ที่นำเรื่องหลวงพ่อมาให้อ่านกัน รออ่านตอนต่อไปอยู่นะครับ
  เป็นกำลังใจให้ครับ ค่อยๆพิมพ์ใจเย็นๆ  :D
หัวข้อ: Re: อภินิหารรูปถ่ายหลวงพ่อ กวย ชุตินธโร ตอน"พิเศษ"
เริ่มหัวข้อโดย: บุญญาธิการ ที่ กันยายน 07, 2011, 05:30:01 pm
บารมีหลวงพ่อกวย ชุตินธโร แห่งวัดโฆสิตาราม(บ้านแค) ที่สุดในหัวใจเลยครับ :) :) :) :)
หัวข้อ: Re: อภินิหารรูปถ่ายหลวงพ่อ กวย ชุตินธโร ตอน"พิเศษ"
เริ่มหัวข้อโดย: โก้ จีนสาตร์ ที่ กันยายน 07, 2011, 09:08:23 pm
ชอบอยากอ่านอีก
หัวข้อ: Re: อภินิหารรูปถ่ายหลวงพ่อ กวย ชุตินธโร ตอน"พิเศษ"
เริ่มหัวข้อโดย: black_crystal ที่ กันยายน 08, 2011, 02:29:13 pm
ขอบคุณพี่มากๆ ที่นำเรื่องมาเล่าให้เจริญศรัทธาในองค์หลวงพ่อกวย
จะรอติดตามอ่านเรื่องที่พี่จะนำมาถ่ายทอดในโอกาสต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: อภินิหารรูปถ่ายหลวงพ่อ กวย ชุตินธโร ตอน"พิเศษ"
เริ่มหัวข้อโดย: karyud ที่ กันยายน 09, 2011, 10:22:32 pm


    อ่านสนุก...ขอบคุณครับ...โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: อภินิหารรูปถ่ายหลวงพ่อ กวย ชุตินธโร ตอน"พิเศษ"
เริ่มหัวข้อโดย: sitthiphol ที่ กันยายน 24, 2011, 12:17:09 am
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: อภินิหารรูปถ่ายหลวงพ่อ กวย ชุตินธโร ตอน"พิเศษ"
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงแดง ที่ ตุลาคม 11, 2011, 01:19:12 pm
จะเป็นเดือนแล้วท่านพี่รออ่านอยู่ครับตอนที่๗น่ะครับ :D
หัวข้อ: Re: อภินิหารรูปถ่ายหลวงพ่อ กวย ชุตินธโร ตอน"พิเศษ"
เริ่มหัวข้อโดย: โก้ จีนสาตร์ ที่ ตุลาคม 11, 2011, 06:31:20 pm
จะเป็นเดือนแล้วท่านพี่รออ่านอยู่ครับตอนที่๗น่ะครับ :D
รอใจจดใจจ่อเลยครับ
หัวข้อ: Re: อภินิหารรูปถ่ายหลวงพ่อ กวย ชุตินธโร ตอน"พิเศษ"
เริ่มหัวข้อโดย: pramate ที่ พฤศจิกายน 23, 2011, 03:54:21 pm
ขอบคุณครับ บารมีหลวงพ่อกวยจริงๆครับ
หัวข้อ: Re: อภินิหารรูปถ่ายหลวงพ่อ กวย ชุตินธโร ตอน"พิเศษ"
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_Tany ที่ พฤศจิกายน 29, 2011, 07:21:12 am
ดีใจ ปลื้มใจ ที่มีโอกาสรับรู้เรื่องราวของหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร (อีก ๆ ๆ ๆ ต่อไปเรื่อยๆ)
หัวข้อ: Re: อภินิหารรูปถ่ายหลวงพ่อ กวย ชุตินธโร ตอน"พิเศษ"
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_Tany ที่ พฤศจิกายน 29, 2011, 08:48:32 pm
              ทุกครั้งที่ได้อ่านเรื่องเล่าประสบการณ์จากคุณ “คนเมืองกาญฯ” คนที่ไม่รู้จัก ยังไม่ศรัทธาเชื่อมั่นในองค์หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร นัก ผมว่าเขาก็จักอยากรู้จัก อยากจะเพิ่มศรัทธาความเชื่อมั่นในองค์ท่านให้มากขึ้นก็คราวนี้แหละ สำหรับคนที่รัก เคารพบูชา ศรัทธาเชื่อมั่นในองค์หลวงพ่ออยู่แล้วก็จักยิ่งเพิ่มพูนความรัก ความเคารพบูชา ความเชื่อมันในองค์หลวงพ่อมากขึ้น ๆ ไม่คลอนแคลน เป็นแน่                 
                  ผมบอกตามตรงว่า เรื่องราวประสบการณ์ที่คุณเล่ามันประทับใจอย่างบอกไม่ถูก มันมีเหตุผลในตัว มันมีที่มาที่ไป ถ้าเป็นหนัง เป็นละคร คุณ”คนเมืองกาญฯ” ก็ถือว่าเป็นผู้กำกับมือหนึ่งไม่น้อยหน้าใครในวงการ
                 ผมเองมีโอกาสได้รู้จักหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร ไม่นานนักแต่ก็เกือบ ๆ สิบได้ แต่ก็เคารพศรัทธาท่านมาก ขอเรียนตามตรงเลยว่า พระหลวงปู่ หลวงพ่อ ที่ผมเคารพรัก ศรัทธาก็มีหลายท่านหลายองค์นะ แต่ที่ผมมีติดตัวเป็นประจำ คุยได้ พูดได้ก็คือหลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปญโญ แห่งวัดสะแก และหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร  ที่เราท่านทั้งหลาย รักเคารพบูชายิ่งนี่แหละ ที่ผมพูดเช่นนี้ เพราะท่าน 2 องค์นี้ ผมมีบุญมีวาสนาได้รู้จัก ได้ศึกษาชีวประวัติของท่านในเวลาไล่เลี่ยกัน  ผมบอกไม่ถูกว่าทำไม ผมรู้แต่ว่า รัก เคารพหลวงปู่หลวงพ่อมากครับ..! และจากการที่ได้อ่านเรื่องราวประสบการณ์ฯ ที่คุณ “คนเมืองกาญฯ” เมตตานำมาเล่าถ่ายทอดเป็นธรรมทาน ผมขออนุโมทนาและบอกตามตรงว่า รู้สึกดีจริง ๆ รู้สึกดีมาก ๆ เลยครับ

                                                                                      "สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ"
หัวข้อ: Re: อภินิหารรูปถ่ายหลวงพ่อ กวย ชุตินธโร ตอน"พิเศษ"
เริ่มหัวข้อโดย: weerawat26 ที่ ธันวาคม 06, 2011, 12:16:00 pm
              ทุกครั้งที่ได้อ่านเรื่องเล่าประสบการณ์จากคุณ “คนเมืองกาญฯ” คนที่ไม่รู้จัก ยังไม่ศรัทธาเชื่อมั่นในองค์หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร นัก ผมว่าเขาก็จักอยากรู้จัก อยากจะเพิ่มศรัทธาความเชื่อมั่นในองค์ท่านให้มากขึ้นก็คราวนี้แหละ สำหรับคนที่รัก เคารพบูชา ศรัทธาเชื่อมั่นในองค์หลวงพ่ออยู่แล้วก็จักยิ่งเพิ่มพูนความรัก ความเคารพบูชา ความเชื่อมันในองค์หลวงพ่อมากขึ้น ๆ ไม่คลอนแคลน เป็นแน่                 
                  ผมบอกตามตรงว่า เรื่องราวประสบการณ์ที่คุณเล่ามันประทับใจอย่างบอกไม่ถูก มันมีเหตุผลในตัว มันมีที่มาที่ไป ถ้าเป็นหนัง เป็นละคร คุณ”คนเมืองกาญฯ” ก็ถือว่าเป็นผู้กำกับมือหนึ่งไม่น้อยหน้าใครในวงการ
                 ผมเองมีโอกาสได้รู้จักหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร ไม่นานนักแต่ก็เกือบ ๆ สิบได้ แต่ก็เคารพศรัทธาท่านมาก ขอเรียนตามตรงเลยว่า พระหลวงปู่ หลวงพ่อ ที่ผมเคารพรัก ศรัทธาก็มีหลายท่านหลายองค์นะ แต่ที่ผมมีติดตัวเป็นประจำ คุยได้ พูดได้ก็คือหลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปญโญ แห่งวัดสะแก และหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร  ที่เราท่านทั้งหลาย รักเคารพบูชายิ่งนี่แหละ ที่ผมพูดเช่นนี้ เพราะท่าน 2 องค์นี้ ผมมีบุญมีวาสนาได้รู้จัก ได้ศึกษาชีวประวัติของท่านในเวลาไล่เลี่ยกัน  ผมบอกไม่ถูกว่าทำไม ผมรู้แต่ว่า รัก เคารพหลวงปู่หลวงพ่อมากครับ..! และจากการที่ได้อ่านเรื่องราวประสบการณ์ฯ ที่คุณ “คนเมืองกาญฯ” เมตตานำมาเล่าถ่ายทอดเป็นธรรมทาน ผมขออนุโมทนาและบอกตามตรงว่า รู้สึกดีจริง ๆ รู้สึกดีมาก ๆ เลยครับ

                                                                                      "สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ"



กล่าวถึงหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แห่งวัดสะแก แล้ว ท่านยังทราบเลยว่าพระอริยะสงฆ์ทั่วฟ้าเมืองไทยมีอยู่ที่ใดบ้าง ย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่
หัวข้อ: Re: อภินิหารรูปถ่ายหลวงพ่อ กวย ชุตินธโร ตอน"พิเศษ"
เริ่มหัวข้อโดย: weerawat26 ที่ ธันวาคม 06, 2011, 12:18:31 pm
กราบสวัสดีพี่ๆน้องทุกๆคน

เนื่องจากเมื่อวานนี้ ข้าพเจ้าได้พิมพ์เล่าเรื่องราวของข้าพเจ้าในตอนที่ชื่อว่า "อภินิหารรูปถ่าย หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร ในตอนที่ 7 เสร็จสิ้นแล้ว โดยใช้เวลา ตั้งแต่ 8 โมง เสร็จ ประมาณ 4 โมงเย็น ซึ่งเป็นใจความที่ยาวมากพอสมควร แต่ด้วยเหตุสุดวิสัยจริงๆ ในขณะที่ข้าพเจ้ากำลังจะโพสต์ลง ให้พี่ ๆ น้อง ๆ ได้อ่านฟัง อยู่ ๆ มือของข้าพเจ้าก็ดันไปโดนปุ่ม อะไรเข้าก็ไม่ทราบ ผลจึงปรากฏว่า ข้อความทั้งหมดที่ข้าพเจ้าได้พิมพ์ไว้ก็ได้อันตรทานหายไปจากจอคอมฯหาเท่าไรก็หาไม่พบ  เล่นเอาหน้าของข้าพเจ้านั้นหดเหลืออยู่เพียงแค่เซ็นเดียวเลย ข้าพเจ้าต้องขออภัย พี่ ๆ น้อง ๆ ที่ตั้งใจและอุตส่าห์เสียเวลาเข้ามาอ่าน เรื่องราว ประสบการณ์ของข้าพเจ้า และไม่เคยมีใครที่พิมพ์ตำหนิและต่อว่าข้าพเจ้าเลยสักครั้ง น่าเสียดายจริง ๆ เพราะข้าพเจ้าตั้งใจพิมพ์มาก ๆ แต่เพื่อเป็นการทดแทนข้าพเจ้าจะขอเล่าเรื่องสั้น ๆ ที่เป็นประสบการณ์ของแม่ของข้าพเจ้าที่ได้ประสบมา และได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟัง ในตอนที่เกี่ยวกับ "รูปหล่อรุ่นแรกกับหลวงปู่กวยมาช่วยแม่" กราบสวัสดีครับ

"หลวงปู่กวยมาช่วยแม่"

"แม่" คือ พระอรหันต์ของลูกที่มีอยู่จริงบนโลก แม่ของข้าพเจ้า มีชื่อว่า นางสมร ทองนุ่ม(สุ่มงาม) แม่เป็นคนบ้านหัวเด่น อำเภอสรรบุรี จ.ชัยนาท เป็นลูกของ พ่อล้วน สุ่มงาม(หลวงตาล้วน วัดหัวเด่น) แม่ผึ่ง สุ่มงาม  มีพี่น้องด้วยกัน 4 คน แม่ของข้าพเจ้า เป็นคนที่ 2 แม่เป็นคนซื่อ ๆ พูดจาตรงไปตรงมา แบบคนเมืองสรรค์ แต่ลองว่ารักใครก็รักจริง ข้าพเจ้าดีใจมากที่ทุกวันนี้แม่สนใจในการ "ปฏิบัติธรรม"เข้าวัดถือศีลในวันพระ ขอให้แม่ได้มีดวงตาเห็น "ธรรม" ด้วยเทอญสาธุ

เรื่องก็มีอยู่ว่า เดิมทีป่าแถวบ้านข้าพเจ้านั้นยังพอจะมีอยู่ การหาของป่า เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา ฯลฯ นั้น พ่อกับแม่ของข้าพเจ้านั้น ไปกัน แบบว่าชอบมาก เพราะท่านมีวิถีในการดำเนินชีวิตแบบชาวบ้านกันมาตั้งแต่เด็ก แม่ท่านเล่าให้ฟังว่า ในป่าแถวเมืองกาญฯ นั้น แต่ก่อนยิ่งอำเภอบ่อพลอย ก็จะมีพวกคนหลาย ๆ ชนชาติเข้ามาเพื่อแสวงหาโชคกันมาก(อาถรรพ์แรง) ในการออกป่าในแต่ละครั้ง สิ่งหนึ่งที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นที่พึ่งของแม่ ก็คือ รูปหล่อรุ่นแรกของ "หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร" นั้นเอง แม่ไม่เคยเอาห่างตัวเลย ท่านจะต้องอาราธนาไปในทุก ๆ ครั้งที่ออกจากบ้าน ข้าพเจ้าก็คงได้อุปนิสัยนี้มาจากท่านเหมือน ๆ กัน ครั้งหนึ่ง ช่วงนั้นเป็นช่วงหน้าฝน ชาวบ้านเขาก็ชอบไปหากบหาอึ่งกันในตอนกลางคืน พ่อกับแม่ของข้าพเจ้านั้น ท่านเป็นแฟนพันธุ์แท้ตัวจริงในเรื่องนี้เหมือนกัน ท่านมีหรือจะพลาด ก็ได้ความว่า พอดีวันนั้นฝนตกหนักมาก ด้วยความที่ท่านนั้นมีเซ้นต์ในเรื่องนี้ พอตอนหัวค่ำท่านก็รวบรวมเพื่อน ๆ กัน ประมาณ 10 กว่าคน เพื่อที่คืนนี้นั้นจะได้ออกกันไปหากบ หาอึ่งกัน ก็เรียกว่าท่านนัดให้มาเจอกันที่หน้าบ้านของข้าพเจ้า พอตกตอนมืด ๆ พวก ๆ ของท่านก็มารวมพลกันที่บ้านของข้าพเจ้า เมื่อคนมาครบแล้ว จึงออกเดินทางกัน ซึ่งก็เป็นระยะทางประมาณ 20 กว่ากิโล เห็นจะได้ แต่มันเป็นตอนกลางคืน ก็เลยแลดูว่า ไกลเอาพอสมควรเหมือนกัน แม่ท่านเล่าให้ฟังว่าก่อนไปทุกครั้งท่านก็จะบอกกล่าวขอบารมี "หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร" (เพราะท่านเชื่อว่าคล้องพระของหลวงพ่อไม่ต้องกลัวเรื่องฟ้า) ขอให้ท่านปักปักษ์รักษา ส่วนพ่อของข้าพเจ้าก็เช่นเดียวกัน

วันนั้นท่านก็ได้เดินทางไป ตกเวลาประมาณครึ่งคืน ก็ได้กันพอสมควร (แถวทุ่งนานางหลอกสุสานสงครามโลกครั้งที่2) ที่นั้นเป็นป่าใหญ่ ก็ได้ปรึกษากันว่าจะไปกันอีกดอน (ป่าอีกแถบหนึ่ง) ก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์กันไป ประมาณ 6-7 คัน แต่ขณะที่พวกของท่านกำลังเดินทางผ่านทุ่งนา อยู่ที่หนึ่งนั้น อยู่ ๆ พวกของท่าน ก็รีบขี่รถโกยแนบกันไปอย่างไวมาก ชนิดที่มองตามไฟท้ายไม่ทันเลย พ่อของข้าพเจ้าเมื่อได้เห็นเช่นนั้น จึงรีบบิดคันเร่งตามอย่างเต็มที่ กะว่าจะรีบไปให้ทันสักหน่อย แต่ด้วยความที่เป็นรถมอเตอร์ไซค์คันเก่า (อาซี 80) ก็เลยตามไปไม่ทัน แถมรถมอเตอร์ไซค์อยู่ ๆ มันก็ดันมาดับอีก สตาร์ทก็ไม่ยอมติด ก็เลยต้องจอดเพื่อที่จะเปลี่ยนหัวเทียนอันใหม่ แต่พอดียังไม่ทันจะเปลี่ยนทันก็ได้ส่องไฟไปในกลางป่าก็พบว่า ในป่านี้นั้นมี อึ่ง เยอะมากและยังไม่มีใครมาจับกันเลย ก็เห็นว่า เป็นโอกาสที่ดีจึงวางอุปกรณ์ในเรื่องช่างไว้ก่อน และท่านก็ได้ชวนกันเข้าไปจับอึ่งกันในดงนั้น สถานที่นั้นเป็นลักษณะ มีสระน้ำใหญ่อยู่ 1 สระ แม่และพ่อของข้าพเจ้าจึงตกลงกันว่า ให้เดินกันคนละฝั่งแล้ววนไปเจอกันข้างหน้าเป็นลักษณะวงรี แต่ก็มองเห็นกันตลอดไม่ไกลกันมาก แม่ของข้าพเจ้าเล่าให้ฟังว่าแกก็เดินมองดูหาจับอึ่งของแกไปเรื่อย ๆ สักประมาณ 10 นาที ทันใดนั้นสายตาของแกก็ได้ไปพบกับชายชราคนหนึ่ง ท่าทางผอม ๆ สูง ๆ หัวหงอกทั้งหัว แต่งตัวคล้ายคนโบราณ ยืนอยู่ที่ข้างสระน้ำที่กำลังมีฝนตกพรำ ๆ อยู่ ทีแรกแกก็นึกว่าคงจะเป็นคนที่เข้ามาหาของป่าเหมือนกัน เพราะแม่ของข้าพเจ้านั้นไม่ใช่คนขี้กลัวอะไร เมื่อเดินเข้าไปใกล้ ๆ แม่ของข้าพเจ้าจึงได้พูดทักทายไปว่า "ไง ลุงได้เยอะไหมจ๊ะ" (เสียงเหน่อๆ) แต่ชายชราคนนั้นกลับไม่ยอมพูดจาอะไรกับแกเลย แถมยังทำหน้าดุ มองดูน่ากลัวมาก จ้องเขม็งนัยน์ตาดุมากมายังแม่ของข้าพเจ้า เหมือนประดุจว่า แม่ของข้าพเจ้านั้นทำอะไรผิดกับแกมาอย่างนั้น แล้วแถมยังมองขึ้นไปบนศีรษะของแม่ของข้าพเจ้าอีกด้วย แต่ไม่พูดอะไรเลยสักคำ ตอนนั้นแม่ของข้าพเจ้าก็เริ่มรู้สึกแปลก ๆ อยู่เหมือนกัน ท่านก็เลยถอยหลังออกมาสักหน่อยหนึ่ง สักพักพอดีพ่อของข้าพเจ้านั้นยืนมองดูอีกฝั่งหนึ่งของสระน้ำ เข้าใจว่าท่านคงสังเกตถึงสิ่งผิดปรกติ เกี่ยวกับกิริยาอาการของแม่ของข้าพเจ้าได้ ท่านก็เลยส่งสัญญาณเป็นลักษณะไฟกระพริบ (ท่านจะรู้กันว่าหมายความว่ายังไง) ว่าให้ออกจากที่บริเวณนี้ แม่ของข้าพเจ้าจึงรีบยกมือขึ้นไหว้ชายชราผู้นั้น แล้วค่อย ๆ เดินถอยหลังมายังพ่อของข้าพเจ้า ซึ่งรออยู่ที่รถมอเตอร์ไซค์ที่จอดไว้และเปลี่ยนหัวเทียนใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว (พ่อของข้าพเจ้าเคยเป็นรองช่างใหญ่ในเหมืองขุดพลอย) และท่านก็ได้รีบ สตาร์ทรถออกจากที่ตรงนั้นทันที ซึ่งในขณะที่ท่านกำลังขี่รถออกจากที่บริเวณนั้น ก็ได้เกิดปรากฏการณ์อาเพศขึ้น กล่าวคืออยู่ ๆ ก็ได้เกิดเป็นลมหมุนที่แรงมาก พัดวนเวียนไปมา อย่างน่ากลัว คล้ายกับว่า มีอะไรสักอย่างกำลังตามท่านทั้งสองอยู่ แม่ของข้าพเจ้าเมื่อได้เห็น ดังนั้นท่านก็ทราบได้ทันทีเลยว่า กำลังโดนอำนาจของสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็นกำลังติดตามอยู่ ท่านจึงตั้งใจใช้มือล้วงพระ "รูปหล่อของหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร" ที่ใช้ประจำกายอยู่ออกมาอาราธนา แล้วระลึกถึงขอให้บารมีของหลวงพ่อช่วยปกปักษ์รักษาคุ้มครอง แล้วเมื่อขี่รถไปได้สักระยะหนึ่ง ท่านทั้งสองก็ได้พบกับฝูงวัวของชาวบ้านฝูงหนึ่งที่ได้ล้อมคอกไว้อยู่ชายป่า ท่านก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาหน่อย เพราะชะรอยว่า จะได้มีเพื่อน เพราะลมหมุนพัดโบกรุนแรงมากเป็นลักษณะพัดแต่ไม่สามารถเข้ามาใกล้ท่านทั้งสองได้ และทันใดนั้นเองอยู่ ๆ ฝูงวัวทั้งฝูงก็พลันร้องกระโตกกระตาก กระโดดหนีอะไรกันสักอย่าง ตื่นตระหนกตกใจ พ่อกับแม่ของข้าพเจ้าจึงรีบไปจากที่นั้น ใช้เวลาขี่รถประมาณครึ่งชั่วโมง จึงได้พ้นแนวป่านั้นมา และเดินทางกลับถึงบ้านกันอย่างปลอดภัย ข้าพเจ้าเมื่อได้ยินเสียงของท่านมาถึงบ้านกัน ก็ได้ลุกขึ้นเปิดไฟรับท่าน ทีแรกข้าพเจ้าก็มิได้สนใจอะไร ก็เข้าไปนอนต่อแต่ก็ได้ยินเสียงท่านคุยกันมาแว่ว ๆ ก็จับใจความได้ว่า เป็นเหตุการณ์ที่ท่านนั้นตกใจกันมาก พอรุ่งเช้าข้าพเจ้าจึงได้เข้าไปสอบถามท่าน ว่าเมื่อคืนนี้มีอะไรกัน ท่านจึงเล่าให้ข้าพเจ้าฟัง สรุปว่าเมื่อคืนนี้ท่านไปเจอดีกัน พอดีป่านั้นท่านไม่รู้มาก่อนเลยว่า ชาวบ้านเข้าลือกันว่า ใครเข้าไปหาของป่าไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน เป็นอันต้องเจอดีกันแทบทุกราย ไม่ตายก็เพี้ยน แต่พวก ๆ เขารู้ พอถึงตรงนั้นเขาเลยไปกันอู้!!!เลย ขนาดตอนกลางวันยังเคยมีคนโดนฟ้าฝ่าตายเลยก็มี เป็นที่ที่แรงมาก  แม่ของข้าพเจ้าเล่าให้ฟังว่าในตอนนั้น ท่านนึกถึงแต่ "หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร" อย่างเดียวขอให้ท่านคุ้มครอง และท่านก็บอกว่าท่านนั้น เชื่ออย่างหมดใจเลยว่า ถ้าวันนั้น ถ้าท่านไม่ได้ บารมีของ "หลวงพ่อกวย" ล่ะก็ ท่านก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรกัน  ข้าพเจ้าเมื่อได้ยินแม่เล่ามาดังนั้นก็จึงรีบยกมือขึ้นว่า สาธุ ๆๆๆ "หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร" ท่านศักดิ์สิทธิ์เหลือเกิน แต่ก็นึกโมโหท่านเจ้าที่ที่นั้นเหมือนกัน จะเอากันถึงตายเลย โอ้โห้!!! ตอนแรกกะว่าจะไปปะด้วยสักหน่อย จะจับลงหม้อซะให้ได้ แต่เคราะห์ดีที่ครูบาอาจารย์ท่านมาเข้านิมิตบอกเตือนไว้ก่อนว่า อย่าไปยุ่งกับพวก "มเหศักดิ์" เขา อย่างแกน่ะไม่ได้ขี้ผงเขาหรอก ทีนี้สติค่อยมาหน่อย เกือบซวยไปแล้วเรา!!!เอ่อ!!!ก็เป็นอันว่า ข้าพเจ้าก็เลยวันหลังแม่จะไปป่าอีกเมื่อไรก็ให้ท่านเอา "มีดหมอ" ของ "หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร" ติดตัวไปด้วยเลย แล้วให้คาถา เบิกไพร ท่านไป พุทโกญจะฯ ข้าพเจ้าจึงค่อยอุ่นใจขึ้นมาหน่อย เรื่องราวของแม่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้นำมาถ่ายทอดให้พี่ ๆ น้อง ๆ ได้อ่านฟังกัน ในวันนี้ ข้าพเจ้าก็ขอจบลงแต่เพียงเท่านี้นะครับ เอาไว้ข้าพเจ้าจะนำมาเล่าให้ฟังกันใหม่ ส่วน "อภินิหารรูปถ่าย หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร" ตอนที่ 7 นั้นก็ขอให้ใจเย็น ๆ กันนะครับ เดี๋ยวจะรีบพิมพ์ใหม่มาให้อ่านฟังกัน เสียดายจริงๆไม่น่าทำลบเลยเรา กราบสวัสดีครับ

ข้าพเจ้า ต้องขอขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาอ่าน แล้วข้าพเจ้าจะนำประสบการณ์มามาถ่ายทอดให้พี่ๆน้องๆได้อ่านฟังกันใหม่ตอนต่อไปซึ่งจะใช้ชื่อว่า"อภินิหารรูปถ่าย หลวงพ่อ กวย ชุตินธโร ตอน 7
หัวข้อ: Re: อภินิหารรูปถ่ายหลวงพ่อ กวย ชุตินธโร ตอน"พิเศษ"
เริ่มหัวข้อโดย: SODA 405 ที่ ธันวาคม 06, 2011, 12:22:23 pm


       ....ขอบคุณ! :D (http://www.peugeot4you.com/public/style_emoticons/default/thanks.gif)