กุศโลบายของโบราณจารย์ในอดีตช่างแยบคายยิ่งนัก ไม่ว่าจะเป็นคาถา อักขระ เลขยันต์ หรือแม้แต่เครื่องรางของขลัง ล้วนแฝงไว้ด้วยนัยยะแห่งพระสัทธรรมแทบทั้งสิ้น
อักขระที่หมุนเวียนไปตามช่องตารางของยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้า เสมือนหนึ่งการหมุนวนอยู่ในสังสารวัฏฏ์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตัว"อิ"ที่อยู่ตรงกลางเปรียบดัง ธาตุรู้ ไม่ดับไม่ตายเป็น"อมตธรรม" นี่แหละจึงว่าโบราณจารย์ในกาลก่อนนั้นมิได้มุ่งแต่จะให้เห็นผลทางด้านอิทธิฤทธิ์แต่เพียงถ่ายเดียว แม้พระสัทธรรมที่ลึกซึ้งลงไปก็ได้แสดงไว้อย่างครบถ้วน
ส่วนตัวเลขที่รายล้อมดวงยันต์อยู่นั้นเป็นการผูกกลบทตามแบบฉบับ"ตรีนิสิงเห"อีกสัมทับหนึ่ง ซึ่งสังเกตได้ว่าตำแหน่งของเลข 5 จะกระจายอยู่ทั้ง 4 ตำแหน่งเป็น 4 มุมแบบสี่เหลี่ยมจตุรัส
และระหว่างมุมทั้ง 4 นั้นจะบวกกันแล้วได้เท่ากับ 10 เสมอ เช่น 3+7,4+6,1+9,2+8 (สามารถเปรียบเทียบได้กับยันต์ตรีนิสิงเหแบบสี่เหลี่ยมซึ่งมี 4 มุมแต่ละมุมแบ่งเป็น 2 ช่อง และทุกๆมุมจะบวกได้เท่ากับ 10 เสมอเช่นเดียวกัน
ส่วนเลข 1,2,3,4นั้นก็จะกระจายออกเป็น 4 ทิศคือ ด้านล่าง-ด้านซ้าย+ด้านบน+ด้านขวา เป็นลักษณะเหลี่ยมขนมเปียกปูนตัดกันกับสี่เหลี่ยมจตุรัสที่ประกอบไปด้วยเลข 5 ดังกล่าวไปแล้วข้างต้น จึงรวมทั้งหมดเป็น 8 มุมครบ 8 ทิศหรือสวัสดิกะ
และระหว่างเลข 1 ถึงเลข 2 นั้นจะบวกกันแล้วได้เท่ากับ 14
ระหว่างเลข 2 ถึงเลข 3 นั้นจะบวกกันแล้วได้เท่ากับ 13
ระหว่างเลข 3 ถึงเลข 4 นั้นจะบวกกันแล้วได้เท่ากับ 12
ระหว่างเลข 4 ถึงเลข 1 นั้นจะบวกกันแล้วได้เท่ากับ 11 รวมกันทั้งสิ้นได้ 50
ทั้งหมดต่างมีความสัมพัทธ์ สัมผัส สอดคล้อง กันอย่างลงตัวและซ่อนไว้ด้วยธรรมปริศนาอันล้ำลึก กล่าวถึง ตรีนิสิงเหนี้เป็นอีกหนึ่งวิชาที่ใช้ในการลบผงซึ่งล้วนมีความสลับซับซ้อนและประณีตละเอียดอ่อนยิ่งนัก สูตรตรีนิสิงเหนี้ยังสามารถถอดกลบท ยักย้ายถ่ายเทให้เป็นไปได้อีกหลายกลบทแต่แม้ในที่สุดแล้วก็จบลงที่ สูญญังนิพพานังปรมังสูญ ทั้งสิ้น หากพิจารณาในแง่ธรรมมะแล้วไซร้จักได้เห็นพระสัทธรรมตามกฎไตรลักษณ์อย่างครบถ้วนกระบวนความ คือนับตั้งแต่การเกิดก่อ ต่อตั้ง ปรวนแปร แลดับสูญ เข้ากับทุกขัง อนิจจัง อนัตตาได้อย่างไม่ผิดเพี้ยนไปไหน โบราณจารย์จึงกำหนดวิชาตรีนิสิงเห ปถมัง มหาราช อิทธิเจ เหล่านี้เป็นกองกรรมฐานให้บัณฑิตผู้สนใจได้เจริญสมาธิ พากเพียร ไตร่ตรองตราบจนบรรลุถึงเจโตวิมุติ และปัญญาวิมุติ เป็นที่สุดแห่งกองกรรมฐานแล
เสริมอีกนิดว่าเลข 5 นั้นไม่ได้หมายถึง นะโมพุทธายะ อย่างเดียวแต่ยังเป็นได้อีกถึง 4 สถานคือ
1.ปา อะ กา มุ สุ (ศีล 5) ปาณา อทินนา กาเม มุสา สุรา
2.เก โล นะ ทะ ตะ (กรรมฐาน 5) เกษา โลมา นะขา ทันตา ตะโจ
3.รู เว สะ สัง วิ (ขันธ์ 5) รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
4.โส สะ อะ อะ นิ (อริยะ 5 ) โสดา สกิทา อนาคา อรหันต์ นิพพาน
และอื่นๆอีกได้ตามแต่คติแห่งคณาจารย์นั้นๆ