ผู้เขียน หัวข้อ: ประสบการณ์เสียว ๆ กับพระสมเด็จหลังจารเฑาะว์ และ นะ มะ อะ อุ  (อ่าน 316629 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ weerawat26

  • สมาชิก
  • *****
  • Thank You
  • -Given: 0
  • -Receive: 39
  • กระทู้: 1103
  • พลังน้ำใจ 39
ไปกราบหลวงพ่อสมใจ
[/color][/b]

รูปถ่ายหลังสิงห์สภาพช้ำและเหรียญหลังยันต์ ได้มาเมื่อวันศุกร์สมใจนึกบางลำพู เป็นของขวัญปีใหม่ ๒๕๕๕ ให้กับตัวเอง นับว่าเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองยิ่งนัก สาย ๆ ของเช้าวันศุกร์ที่ ๖ มกราคม ๒๕๕๕ หลังจากไปรับพระมาแล้วก็ไปทำงานได้พูดคุยกับรุ่นน้อง ซึ่งเขาเองเพิ่งบอกให้ผมทราบว่า ภรรยากำลังตั้งครรภ์ได้ ๔ เดือนแล้ว ก่อนหน้านั้นภรรยาได้คลอดลูกคนแรกได้เพียง ๒ – ๓ วันลูกก็จากไป เมื่อปีก่อนภรรยาคลอดบุตรคนที่ ๒ ก่อนกำหนดประมาณ ๖ เดือนเท่านั้นก็จากไป นับว่าแปลกมาก

ทำให้ผมนึกถึงเรื่องราวที่ อ.เฒ่า สุพรรณ ได้เล่าเรื่องของหมอตำแยที่แท้งลูกถึง ๔ ท้อง แล้วมากราบหลวงพ่อทำนองมาขอลูก พร้อมเล่าเรื่องราวให้หลวงพ่อท่านทราบ ท่านได้มอบพระพิมพ์สรรค์ให้หมอตำแยไปต่อมา ๒ ปีให้หลังได้พาบุตรชายมากราบหลวงพ่ออีกครั้งเรื่องเล่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมประทับใจไม่รู้ลืม ทำให้ผมเล่าเรื่องนี้ให้น้องเขาฟัง
ผมเองได้ชักชวนให้เขาไปกราบไหว้หลวงพ่อและถวายตัวเป็นศิษย์ น้องเขามีรถยนต์แต่ผมไม่มี ผมจึงต้องชวนเขาเพื่ออาศัยรถเขานั่นเองโดยผมขออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมดพร้อมค่ากิน ซึ่งนึกไม่ถึงว่า น้องเขาจะตอบตกลงอย่างง่ายดาย โดยตกลงกันว่าจะไปในวันรุ่งขึ้นคือวันเสาร์ที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา


ก่อนหน้านี้ ๑ วัน คือวันพฤหัสบดีที่ ๕ มกราคม ๒๕๕๕ ผมเองยังไม่ได้รับพระคือรูปถ่ายหลังสิงห์และเหรียญหลังยันต์ ผมเองได้ลองหยั่งเชิงชักชวนน้องเขาไปไหว้หลวงพ่อในวันศุกร์ ซึ่งเขานึกว่าผมพูดเล่นและก็ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธคือเฉย ๆ และเงียบไป แต่เช้าวันศุกร์ผมแวะไปรับพระที่ไปรษณีย์ก่อนมาทำงาน พอแกะกล่องและใส่กระเป๋าเสื้อไว้อย่างเรียบร้อยและมิดชิด ก็ลองชวนน้องเขาอีกครั้งพร้อมกับเล่าเรื่องราวอาถรรพ์หมอตำแยแท้งลูกให้ฟัง คราวนี้ น้องเขาตอบตกลงทันที ก็รู้สึกดีใจมากอย่างบอกไม่ถูก จะได้ไปกราบและฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อถึงที่วัดดั่งที่ได้ตั้งใจเอาไว้นานแล้ว

ตกเย็น หลังจากออกกำลังกายแล้วได้ไปตลาดเพื่อซื้อของไหว้มี ธูปเทียนแพ หมาก พลู บุหรี่ และพาน รวม ๒ ชุด เผื่อน้องเขา ๑ ชุด และซื้อไหว้หลวงพ่อที่บ้านอีก ๑ ชุด เมื่อกลับมาถึงบ้านเกือบ ๒ ทุ่ม อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย จึงจัดพานถวายหมากพลูบุหรี่พวงมาลัยพร้อมดอกไม้ที่โต๊ะหมู่บูชาซึ่งผมบูชารูปหล่อบูชารุ่น ๓ ของหลวงพ่อ โดยนำรูปถ่ายหลังสิงห์และเหรียญหลังยันต์ใส่พานตั้งบูชาถวายหลวงพ่อด้วย ผมขอให้การเดินทางไปกราบหลวงพ่อที่วัดในวันพรุ่งนี้อย่าได้มีอุปสรรคใด ๆ เลย ของให้เดินทางโดยราบรื่น รู้สึกสบายใจและสุขใจอย่างบอกไม่ถูก โดยนัดแนะกันว่าจะออกเดินทางในตอนเช้าวันเสาร์ที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๕ เวลา ๐๖.๐๐ น. ตกลงคืนนั้นด้วยความดีใจผสมความตื่นเต้น กลับทำให้ผมนอนไม่หลับ กว่าจะหลับลงได้ก็ดึกมาก นอนคิดฟุ้งซ่านไปต่าง ๆ นา ๆ จนหลับไป และตื่นมาอีกทีตอน ๐๕.๐๐ น. จึงลุกมาอาบน้ำอาบท่าแต่งตัว เหตุที่นอนไม่หลับน่าจะมาจากกลัวไปไม่ถูกรวมอยู่ด้วยนั่นเอง

อีก ๕ นาที จะได้เวลาตามที่นัด จึงโทรไปถามน้องเขาว่าพร้อมหรือยัง ปรากฏว่าเป็นการโทรไปปลุกมากกว่า จึงขอเลื่อนเวลาไปอีกครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้นนึกขึ้นมาได้จึงเปิดโน้ตบุคที่ผมได้เก็บข้อมูลของ ตะลอนทัวร์ เอาไว้ นั่งอ่านฆ่าเวลาและจดเส้นทางที่เขาบอกเอาไว้ว่า
แบกเป้กระโดดขึ้นรถสาย 8 ชัยนาททัวร์ หน้า Future รังสิตมุ่งสู่ วัดบ้านแค ต.บางขุด อ.สรรคบุรี โชเฟอร์พาตะลอน ๆ ตามทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านบางปะอิน เข้าอ่างทองเรื่อยมาจนรถเข้า "ท่าข้าม" จนผ่านแยกไหสี่หู-ข้ามคลองชลประทานไปเรื่อย... ลงที่นี่ครับ "ป้อมตำรวจ-แยกโพธิ์งาม"
ผมจดเอาเฉพาะที่สำคัญ คือ บางปะอิน – อ่างทอง – ท่าข้าม – แยกไหสี่หู – ชลประทาน – ป้อมตำรวจแยกโพธิ์งาม จดเอาไว้คร่าวเพียงแค่นี้ก็น่าจะพอ นึกในใจว่า คงไปไม่ยาก พอดีน้องเขาโทรเรียกเข้ามาแสดงว่าพร้อมแล้ว จึงนำข้าวของที่เตรียมไว้ไปหาน้องเขาซึ่งจอดรถรออยู่ ออกเดินทางครั้งนี้น่าเสียวไส้ไม่น้อยเพราะปกติไม่ค่อยเดินทางเท่าไหร่นัก และก็เป็นไปตามที่คิดจริง ๆ พอออกจากมอเตอร์เวเข้าอยุธยา น้องเขากลับเข้าเลนผิดไปเข้าเลนข้ามสะพานไปฝั่งเข้ากรุงเทพฯ ดีที่ข้างหน้าไม่ไกลนักมีสะพานกลับรถอยู่ข้างหน้า พอเข้ากลับรถวิ่งเข้าอยุธยาได้ก็สบายใจ รวมเบ็ดเสร็จเจอค่าผ่านทางไปทั้งหมด ๔ ด่าน


เวลานั้นก็ประมาณเกือบ ๐๙.๐๐ น. เห็นจะได้ท้องเริ่มร้องแล้วเห็นปั๊ม ปตท.ข้างหน้าเลี้ยวเข้าไปพักรถเพื่อหาอาหารเช้ารองท้อง กลับมีแต่ร้านกาแฟไม่ต่ำกว่า ๔ ร้าน ร้านอาหารไม่มี ไม่เป็นไรเข้าห้องน้ำก่อน ตกลงกันว่าเริ่มกาแฟแก้ง่วงกันก่อนดีกว่าเดี๋ยวหาปั๊มข้างหน้ากินข้าวเช้ากัน เสร็จจากกาแฟขับรถไปสักพักแวะเข้าปั๊ม ปตท.กินข้าวเช้าเป็นข้าวราดแกงธรรมดาครับ ๒ อย่าง ๓๕ บาท รสชาติพอใช้ได้ น้ำดื่มคนละขวด ก็อิ่มหนำสำราญ
ออกจากปั๊ม ปตท. บางปะอิน ก็วิ่งยาวเลยอ่างทอง ไปเสียฉิบ (หากเลี้ยวซ้ายเข้าอ่างทอง ถ้าจำไม่ผิดถนนเส้นนี้น่าจะเป็นหมายเลข ๓๓๔ เส้นทางอ่างทอง-สิงห์บุรี เพื่อวิ่งไปเข้าถนนหมายเลข ๓๐๙ สิงห์บุรี-บางระจัน ถ้าผมจำไม่ผิด) จริง ๆ แล้ว ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าวิ่งตรงไปแล้วจะไปเข้าที่ใด เห็นว่าเส้นที่กำลังวิ่งอยู่นั้นเป็นเขตอ่างทอง จึงคิดว่า ตรงไปข้างหน้าต้องเป็นท่าข้ามสิงห์บุรีแน่นอน
วิ่งไปเรื่อย ๆ จนเข้าเขตสิงห์บุรี รู้สึกปวดท้องจึงแวะเข้าปั๊มแก๊ส ระหว่างนั้นน้องเขาได้ถามว่าแม่ค้าพ่อค้าในปั๊มว่า จะไปสรรค์บุรีไปทางไหน แม่ค้าบอกว่าเลยมาแล้ว ส่วนผู้ชายบอกว่าให้วิ่งตรงไปข้างหน้าเข้าสิงห์บุรีและเลี้ยวซ้ายออกอินทร์บุรี ให้ไปทางนั้นจะง่ายกว่า


ตกลงวิ่งไปตามเส้นทางที่ผู้ชายคนนั้นบอกวิ่งไปสักพักประมาณ ๑๕ กม.ก็เลี้ยวซ้ายเข้าสิงห์บุรี และเลี้ยวซ้ายไปตามลูกศรชี้บอกว่าไปอินทร์บุรี ตลอดเส้นทางถนนจะเลียบคลองชลประทานไปตลอดเส้นทาง มีซ่อมทำบ้างเป็นระยะผลคงจะสืบเนื่องมาจากน้ำท่วมทำให้ผิวจราจรเสียหาย วิ่งไปเรื่อย ๆ ไม่รีบร้อน เพื่อมุ่งหน้าไปสรรค์บุรีตามที่ตั้งใจไว้
ไปเลี้ยวซ้ายตามที่ป้ายบอกว่า เข้าสรรค์บุรี จำไม่ได้แล้วว่าแยกนั้นชื่อว่าอะไรน่าเสียดายที่ไม่ได้จดบันทึกเส้นทางไว้ รู้สึกว่า ทางจะเปลี่ยวพอสมควร ไม่ค่อยมีรถวิ่งมากนัก บรรยากาศตลอดเส้นทางตั้งแต่อินทร์บุรีจนถึงสรรค์บุรี รู้สึกได้เลยว่าเป็นท้องทุ่งนาเขียวขจี มองแล้วรู้สึกเพลิดเพลินเจริญใจเสียจริง ๆ ตลอดเส้นทางยังเห็นร่องรอยบ่งบอกว่าเพิ่งผ่านการถูกน้ำท่วมมาอย่างหนัก แต่แปลกนะครับเมืองสรรค์บุรีกลับไม่ถูกน้ำท่วม ถามทางจนวิ่งมาถึงตัวเมืองอำเภอสรรค์บุรี เห็นรถทัวร์สาย 8 ชัยนาท คันหนึ่งกำลังจอดอยู่ อ้อ รถทัวร์สายนี้นี่เอง ตัวเมืองสรรค์บุรีไม่ค่อยใหญ่นัก แต่ก็ไม่เล็ก สอบถามเส้นทางไปวัดจากคนในอำเภอสรรค์บุรี จนหาทางออกไปได้ วิ่งไปสักพักเห็นวัดโคกดอกไม้ ตั้งเด่นเป็นสง่า คิดในใจว่าอีกสักพักคงถึงวัดหลวงพ่อแล้วละ จอดถามคนข้างทางอีกครั้งเพื่อความแน่ใจก็ทราบว่าอยู่อีกไม่ไกล แม่ค้าเขาถามว่าเมื่อวานเห็นมีงานอยู่นะ


วิ่งไปอีกสักพักก็เห็นป้ายวัดเด่นเป็นสง่าอยู่ข้างหน้าจึงเลี้ยวซ้ายเข้าไปไม่ไกลนักผ่านวัดการเปรียญตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ชื่อคุ้น ๆ อีกไม่ไกลก็ถึงวัดของหลวงพ่อสวยเด่นเป็นสง่าอยู่ทางขวามือโดยผ่านโรงเรียนก่อนที่อยู่ติดกันกับวัด เห็นวัดตั้งอยู่ข้างหน้าภาวะจิตใจบอกไม่ถูกจริง ๆ ครับกับครั้งแรกที่ได้มา เลี้ยวขวาเข้าประตูวัดเข้าไปจอดข้างศาลาของหลวงพ่อ เห็นศาลก็รู้สึกคุ้น ๆ ตา จากที่เคยได้เห็นที่มีผู้ถ่ายไว้แล้วนำมาเผยแพร่
ลงจากรถดูเวลา ๑๒.๐๐ น. เศษ ๆ พร้อมด้วยของเตรียมมา เห็นตรงหน้าศาลามีธูปเทียนและดอกไม้ ไว้บริการจึงทำบุญมา ๒ ชุด แล้วจึงเข้าไปในศาลาหลวงพ่อ พลันที่เดินเข้าไปในศาลาข้างหน้าเป็นรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งและโลงแก้วที่บรรจุสังขารของหลวงพ่อ ความรู้สึกขณะนั้นตื้นตันใจและสุขใจที่ตัวผมเองได้มีวาสนามากราบหลวงพ่อเป็นครั้งแรกในชีวิต พอดีขณะนั้นมีสองแม่ลูกซึ่งเจอกันก่อนหน้านี้ข้างนอกศาลาตรงที่วางดอกไม้ กำลังไหว้หลวงพ่ออยู่ก่อน ผมกับรุ่นน้องจึงรอคิว ระหว่างนั้นนึกขึ้นมาได้จึงสอบถามผู้ดูแลศาลาที่ตู้วัตถุมงคล “ผมขอลอดโลงหลวงพ่อได้ไหมครับ” ได้รับคำตอบกลับมาว่า “ได้ครับ” ผมก็ตอบขอบคุณด้วยความรู้สึกยินดียิ่งนัก จัดแจงหยิบของออกมาจัดเรียงลงในพาน มีธูปเทียนแพ ๑ พาน และหมากพลูบุหรี่ ๑ พาน รวม ๒ ชุด
พอสองแม่ลูกไหว้หลวงพ่อเสร็จแล้ว ผมกับรุ่นน้องก็นำพานไปวางตรงหน้าที่บูชา พร้อมท่องคาถาบูชาหลวงพ่อ ก็กราบขอถวายตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อสมดังตั้งใจ ขณะนั้นผู้ดูแลก็มารอเปิดประตูให้ผมกับรุ่นน้องได้เข้าไปลอดใต้โลงหลวงพ่อ ผมลอด ทั้งหมด ๓ รอบพร้อมกราบแทบเท้าหลวงพ่อ รู้สึกว่าเราเป็นศิษย์หลวงพ่อแล้วในวันนั้น เพราะตลอดระยะเวลาของการเดินทางไม่ได้มีอุปสรรคใด ๆ มาขวางกั้นเลย ราบรื่น ปลอดโปร่งยิ่งนัก


หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่ตั้งใจแล้ว จึงมาที่บริเวณตู้วัตถุมงคล เห็นรูปใบใหญ่ราคา ๑๐๐ ผู้ดูแลได้บอกว่าเป็นรูปถ่ายออกเมื่อปี ๒๕๔๕ ครับ นับถึงปีนี้รูปน่าจะอยู่ในตู้มา ๑๐ ปีพอดี เห็นยังมีอยู่หลายใบครับ ผมกับรุ่นน้องจึงขอบูชากันคนละ ๑ ใบ รวม ๒ ใบซึ่งภาพถ่ายใบใหญ่ นั้น เป็นเป้าหมายอันดับแรกที่ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องนำมาใส่กรอบบูชาที่บ้านให้ได้ เดิมคิดจำนำภาพถ่ายไปขยายเอง มีเหรียญอยู่ในตู้วัตถุมงคลเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นรุ่นฉลองเรือนไทยพิพิธภัณฑ์ ปี ๒๕๕๓ ผมจึงบูชาเหรียญหลังหนุมาน เหรียญกลมหลังสิงห์ และเหรียญกลมหลังยันต์ดวง และหนังสือฉบับคู่มือสะสมหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม พิมพ์ครั้งที่ 2 ที่หน้าปกเป็นรูปหลวงพ่ออุ้มบาตรหรือที่เรียกกันว่ารูปมหาทานนั่นเอง ปกสีเขียว เรียบเรียงโดย คเชนทร์ มาสมาน ราคา ๓๕๐.-บาท
พอดีเคยเห็นคนมาโพสต์ใบอนุโมทนาบัตร แล้วชอบมาก จึงสอบถามว่าทำอย่างไรจึงจะได้ พระท่านจึงเรียกไปนั่งตรงหน้าว่าต้องบริจาคจำนวนหนึ่งจึงจะออกใบอนุโมทนาบัตรให้ ผมจึงทำบุญไปจำนวนหนึ่งพระท่านก็อนุโมทนากับผมด้วยพร้อมกับรับใบอนุโมทนาบัตรที่ต้องการมาด้วยความสมใจดังที่ตั้งใจเอาไว้ หลังจากนั้นจึงขอถ่ายรูปตัวเองไว้เป็นที่ระลึก อยู่ในวัดประมาณบ่ายโมงเศษ ๆ จึงสมควรแก่เวลาจึงชวนกันกลับ ซึ่งได้สอบถามทางกลับจากชาวบ้านที่มากราบรูปหล่อหลวงพ่อที่มณฑปหน้าวัด เพราะผมกับรุ่นน้องรู้ตัวว่าทางที่มานั้น อ้อมมาไกลมาก ชาวบ้านบอกให้ไปทางแยกหน้าป้อมตำรวจแล้วไปออกทางบางระจัน เส้น ๓๐๙ ไปแวะกินข้าวกลางวันที่บ่อตกปลาประมาณ ๑๔.๓๐ น. เห็นจะได้


๑๕.๐๐ น. กินข้าวอิ่ม ออกเดินทางไปตามเส้นทาง สาย ๓๐๙ จนไปถึงอ่างทอง ออกเส้น ๓๓๔ และออกเส้นทางถนนหมายเลข ๑ จึงร้องอ๋อกันทั้งสองคน คุยกันไปเรื่อย ๆ เพลิน จนลืมดูน้ำมัน รุ่นน้องเขามานึกขึ้นได้ก็อยู่บนมอเตอร์เว จึงชะลอรถเพื่อหาทางออกจากมอเตอร์เว เพื่อหาปั๊มก่อนที่น้ำมันจะหมด มาเจอทางออกตรงเขตลาดกระบัง เลี้ยวขวาไปอ่อนนุช เลี้ยวซ้ายไปลาดกระบัง ฉลองกรุง แหม รถมันติดระเบิดเถิดเทิง กว่าจะเข้าปั๊มได้ เนื่องจากไม่คุ้นเคยถนนแถบนั้น วิ่งไปวิ่งมาจนไปเจอทางขนานมอเตอร์เวแถว ๆ พระจอมเกล้าลาดกระบัง วิ่งไปแต่ทางเข้ามอเตอร์เวไม่ได้ ไปเจอสะพานกลับรถนึกว่าเข้าได้กลับไปเจอออกซ้ายกิ่งแก้ว ออกขวาไปคลังสินค้าสนามบินสุวรรณภูมิ เลยออกซ้ายไปกิ่งแก้ว เจอรถติดเข้าอีกกว่าจะออกจากกิ่งแก้วเข้าสุขุมวิทได้ เกือบ ๑๘.๐๐ น. ต้องแวะเข้าปั๊มพักรถจิบกาแฟกันก่อนด้วยความเซ็ง ที่น้ำมันรถทำพิษ ทำให้กลับถึงบ้านล่าช้ากว่ากำหนด จิบกาแฟสักพัก จึงออกรถมุ่งหน้าไปทางสุขุมวิท ถึงบ้าน ๒๐.๐๐ น. พอดิบพอดี

ตลอดการเดินทาง ผมสองคนไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนเพลียหรือเหนื่อยล้าแต่อย่างใด กลับชุ่มชื่นอิ่มอกอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูก ที่ครั้งหนึ่งได้มีโอกาสไปกราบหลวงพ่อท่านถึงที่วัดโฆสิตารามจนได้

รุ่งเช้าวันอาทิตย์ที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๕ ไปซื้ออาหารเช้าที่ตลาด พร้อมกับไปหาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลได้เลขที่ต้องการมาจำนวนหนึ่งจึงกลับเข้าบ้าน หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ สาย ๆ ได้นำภาพที่บูชามาจากวัดพร้อมใบอนุโมทนาบัตร ไปร้านอัดกรอบ โดยขอให้เขาใช้ขอบทองธรรมดา ตกลงภาพใหญ่กรอบราคา ๒๒๐.-บาท กรอบใส่ใบอนุโมทนาบัตรราคา ๑๐๐.-บาท นัดวันพุธที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๕๕ แล้วจะถ่ายรูปมาให้ชมกันครับว่าใส่กรอบแล้วจะสวยงามแค่ไหน

เรื่องราวอาจจะดูไม่หวือหวา แต่ก็เป็นความภาคภูมิใจของผมจริง ๆ ครับ จึงขอเล่าสู่กันฟังเพลิน ๆ ครับ ตกหล่นตรงไหนกรุณาชี้แนะด้วยครับ ขอบพระคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่านครับ ขอให้ทุกท่านที่เข้ามาอ่านจงมีความสุข และขอให้ศิษย์หลวงพ่อทุกคนจงอย่าอด อย่าอยาก อย่ายาก อย่าจน อย่าต่ำกว่าคน อย่าจนกว่าเขา

ออฟไลน์ weerawat26

  • สมาชิก
  • *****
  • Thank You
  • -Given: 0
  • -Receive: 39
  • กระทู้: 1103
  • พลังน้ำใจ 39
กราบหลวงพ่อสมดังตั้งใจ

ออฟไลน์ weerawat26

  • สมาชิก
  • *****
  • Thank You
  • -Given: 0
  • -Receive: 39
  • กระทู้: 1103
  • พลังน้ำใจ 39
เหรียญหลังหนุมาน รุ่นฉลองเรือนไทยพิพิธภัณฑ์ ปี 53

ออฟไลน์ weerawat26

  • สมาชิก
  • *****
  • Thank You
  • -Given: 0
  • -Receive: 39
  • กระทู้: 1103
  • พลังน้ำใจ 39
เหรียญหลังหนุมาน รุ่นฉลองเรือนไทยพิพิธภัณฑ์ ปี 53

ออฟไลน์ weerawat26

  • สมาชิก
  • *****
  • Thank You
  • -Given: 0
  • -Receive: 39
  • กระทู้: 1103
  • พลังน้ำใจ 39
เหรียญหลังหนุมาน รุ่นฉลองเรือนไทยพิพิธภัณฑ์ ปี 53

กระดานสนทนาเว็บไซต์ ศิษย์หลวงพ่อกวย


 


Facebook Comments