เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อประมาณกลางปี 51 ผมจำเป็นต้องไปเยี่ยมญาติที่มารักษาตัวที่โรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ โดยขับรถยนต์ส่วนตัวจากลำพูนมากับภรรยา หลังจากเยี่ยมญาติที่โรงพยาบาลแล้วก็นอนที่กรุงเทพฯหนึ่งคืน และคีนนั้นผมได้คุยกับแฟนว่า พรุ่งนี้จะขับรถออกทางสุพรรณเพื่อจะผ่านทางชัยนาทและจะแวะกราบสังขารหลวงพ่อกวยที่วัดโฆสิตาราม แฟนก็ถามว่ารู้จักเส้นทางไปวัดหลวงพ่อเหรอ ผมบอกไม่รู้จักหรอกเพราะไม่เคยไป แต่ก็จะสอบถามเส้นทางไปวัดหลวงพ่อที่ป้อมตำรวจใดก็ได้ที่ชัยนาท เขาคงรู้จักอยู่หรอก
เช้าอีกวันเตรียมตัวกลับลำพูน แฟนผมรอพบคนนั้นบ้างคนนี้บ้าง จนเกือบเที่ยง ผมโมโหมากเพราะไม่อยากให้ไปถึงลำพูนค่ำมืด ออกจากกรุงเทพฯก็เหยียบคันเร่งเต็มสปีด(แบบประชดด้วย)แฟนผมคงรู้ว่าผมอารมณ์ไม่ดีจึงนั่งนิ่งเงียบมาตลอดทาง พอเข้าเขตจ.ชัยนาทนั่นแหละแฟนถึงเอ่ยปากถามว่าตกลงจะแวะวัดหลวงพ่อกวยรึเปล่า ผมยังงอนๆอยู่ก็บอกว่าไม่แวะไม่เวอะแล้ว ก็คุณมัวแต่เสียเวลาอยู่นี่ แต่ผมก็แอบคิดในใจว่าหลวงพ่อที่ลูกเคารพครั้งหน้าถ้าผมมากรุงเทพฯอีกครั้งผมจะแวะกราบหลวงพ่อแน่นอน ......ไม่ถึงอึดใจครับ ได้ยินเสียงมีอะไรกระทบใต้ท้องรถดังมาก ผมเลยชลอความเร็ว พอความเร็วลดเหลือประมาณ 90กม. เสียงดังปังสนั่นเลยครับ รถผมไหวยวบเลย ผมรู้ทันทีว่ารถผมยางระเบิดแล้ว จึงจับพวงมาลัยแน่นและค่อยๆประคองรถเข้าจอดข้างถนน ในใจก็นึกถึงหลวงพ่อกวยว่า หลวงพ่อลูกแย่แน่ๆ ในชีวิตการขับรถไม่เคยรู้จักการเปลี่ยนยางอะไหล่เลย เคยแต่ใช้ลูกน้องทำทั้งนั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าต้องใช้แม่แรงยกรกยังไง
หลังจากรถที่ยางระเบิดแล้วจอดสนิท ผมก็ลงมาดูล้อหลังซ้ายที่ระเบิด รูโบ่วเลยครับ โอย..ถ้าตอนนั้นไม่มีเสียงอะไรดังมาก่อน จนผมต้องเปลี่ยนความเร็วจาก 160 ถม.ลงมา มันจะเกิดอะไรขึ้น โอย...ไม่อยากจะคิด ขณะที่กำลังยืนมึนตึ๊บอยู่นั้น มีรถมอเตอร์ไซค์มาจอดหลังรถผม ลุงแก่ๆที่ขี่รถมาถามว่ารถยางแตกเหรอ ผมบอกครับและสารภาพกับแกว่าเปลี่ยนยางอะไหล่ไม่เป็นเลย แกบอกไม่เป็นไร เพื่อนลุงเปิดอู่อยู่ แล้วแกก็โทรศัพท์ให้เดี่ยวนั้นเลย
ไม่ถึง 15 นาทีครับเพื่อนคุณลุงพร้อมกับลูกน้องอีกคนก็มาถึง จัดการถอดยางออกและเปลี่ยนยางอะไหล่ให้เรียบร้อย ผมเลยสอบถามทางไปวัดหลวงพ่อ คุณลุงผู้ใจดีคนนั้นก็เขียนแผนที่ให้เรียบร้อย หลังจากจ่ายค่าบริการ 100..บาท(เพราะเจ้าของอู่คิดแค่นั้นจริง ๆ ผมยังบอกว่าคุณลุงคิดราคาผิดหรือเปล่า แกบอกไม่ผิดหรอก ถ้าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ)
ผมขับรถมาตามแผนที่ยังหลงแล้วหลงอีก วนไปวนมาจนไปทะลุที่รูปหล่อพ่อขุนสรรค์ เลยได้ไปกราบพ่อขุนสรรค์ด้วย และสอบถามคนขับรถยนต์รับจ้างแถวนั้น คราวนี้ขับรถเลาะไปเรื่อยๆถามแม่ค้าที่ข้างทางเอาจนถึงวัดหลวงพ่อจนได้ เจอมัคทายกวัดและคุณยายแก่ๆอีก 3 คน คุณยายบอกว่าผมกับแฟนโชคดีมากๆที่มากราบหลวงพ่อวันนี้ เพราะพรุ่งนี้ทางวัดก็จะย้ายศพหลวงพ่อไปเก็บอีกที่หนึ่งแล้ว และทีโชคดีสุดๆคือๆคุณยายบอกว่าให้ลอดใต้ศพหลวงพ่อกัน จะหมดเคราะห์ หมดโศก ผมกับแฟนเลยลอดเสีย 3 รอบ หลังจากนั้นได้มาบูชาวัตถุมงคลที่ตู้อีกหลายรายการ
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ผมสรุปได้ว่า
1..เพราะผมพูดว่าจะแวะกราบหลวงพ่อแล้วเปลี่ยนใจ เลยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
2..หลวงพ่อได้ดลจิต ดลใจให้ผมได้ลดความเร็วรถลง จึงถือว่าเป็นการเตือนเบาๆจากหลวงพ่อ
3..หลวงพ่อได้หาคนมาช่วยผมไว้แล้ว โดยที่เสียเวลาไปนะจุดนั้นแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
4..หลวงพ่อสอนให้ผมเป็นคนที่ต้องรักษาสัจจะ
5..จากเหตุการณ์ครั้งนี้แฟนผมนับถือหลสวงพ่ออย่างสุดใจและสามารถท่องคาถา"นะสีวัง พรหมมา มะอะอุ"ที่ลุงที่วัดจดให้ได้ และท่องทุกวันที่ร้าน
6..หลวงพ่อสอนให้ผมรู้ว่าควรหัดเปลี่ยนยางอะไหล่ด้วยตนเองได้ และตอนนี้ผมสามารถทำได้ด้วยตัวเองแล้ว
.......................สาธุ................ลูกขอกราบหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูง.......................................