บัวควำ บัวหงาย หนองอีดุก องค์ที่หลองพ่อกดพิมพ์เอง เเละพิเศษกว่านั้น คือ ท่านจารเอง
ได้พบพิมพ์นี้มาก็มาก ทั้งสวยมาก เเละ สวยน้อย แต่องค์นี้พิเศษกว่า "คำว่าสวย"
รอยจารที่เกิดจากมือหลวงพ่อ ในความรู้สึกของผม เป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก ไม่มีใครย้อนเวลากลับไปได้เพื่อที่จะได้ทำในสิ่งต่างๆกับท่าน
การปลุกเศกพระนั้นเป็นการเพ่งกระเเสจิต ให้อยู่กับวัตถุนั้นๆ ถ้าเป็นเครื่องรางที่ทำเป็นตัว ก็จะต้องเรียกธาตุทั้ง 4 เเละ อาการ 32 เพื่อจะได้มีร่าง มีตัว มีตน ครบอาการ 32 เเละมีธาคุทั้ง 4 เพื่อจะได้มีชีวิต แต่ถ้าปลุกเศกพระ จะต้องกำหนดจิตให้นิ่ง จนถึงวาระหนึ่ง ที่ท่านรู้ได้เฉพาะตน ว่า พร้อมเเล้ว ท่านก็จะเพ่งอธิฐานจิต หรือ อันเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้อยู่ที่วัตถุนั้นๆ การที่คณาจารย์ต่างๆท่านได้จารอักขระซ้ำนั้น ท่านก็จะต้องกำหนดจิตลากเส้นตามที่ท่านได้เล่าเรียนศึกษามา การเขียนอักขระเลขยันต์ไม่ใช่งานศิลป์ที่นึกจะเขียนก็เขียน ไม่ใช่เเค่ตวัดปลายภู่กัน หรือ ปลายปากกา แล้วของสิ่งนั้นก็จะมีคุณค่า แต่ท่านต้องกำหนดจิต กำหนดลมหายใจ เรียกตัวยันต์ ระลึกนึกถึงครูบาอาจารย์ อีกทั้งยังใส่คาถาวิชาต่างๆกำกับลงไปด้วย ซึ่ง เป็นการเศก 2 ครั้ง แต่พระหลวงพ่อ มากกว่า 2 ครั้งแน่ๆครับ เพราะผงท่านทำเอง เศกผงก่อนทำเป็นองค์พระ เอาละครับเอาเเค่พอสังเขบนะครับ ใว้โอกาศหน้า จะนำเรื่องราวมาเสนอให้ได้อ่านกันใหม่
ร่ายซะยาวเดี๋ยวจะหาว่า มานั่งเล่านิทาน เป็น เกล็ดเล็กเกล็ดน้อยที่นำมาฝากกันน่ะครับ