ฟังหลายท่านพูดถึงหลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ ทำให้ผมสนใจอยากจะหาโอกาสไปกราบท่านบ้าง กิตติคุณความดีท่านมีมาก เช่น สร้างโรงเรียน, สถานีอนามัย ให้ชุมชน ฯลฯ ส่วนวัตถุมงคลของท่านก็มีอิทธิปาฏิหาริย์เป็นที่เลื่องลือ
ที่สำคัญ หลังท่านมรณภาพไปนาน สังขารท่านก็ไม่เน่าเปื่อย ยังเก็บอยู่ในโลงแก้วที่วัดจนถึงปัจจุบัน และวัดของท่านก็อยู่ไม่ไกลจากวัดโฆสิตาราม ของหลวงพ่อกวย ผมก็มารู้เพิ่มเติมจากเจ้าอาวาสวัดโฆสิตาราม ที่เป็นผู้บอกทางผมวันนั้นว่า หลวงปู่ท่านเป็นสหธรรมิกของหลวงพ่อกวย ด้วย นี่ย่อมไม่ธรรมดา
ผมไปงานทอดกฐินประจำปี 2551 ของวัดโฆสิตารามปีนี้ ถือว่าไป 1 ได้ 2 คือ เสร็จจากบุญใหญ่ที่วัดหลวงพ่อกวย แล้ว ก็ต่อมาที่วัดสระเปรียญ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลเลย ออกจากวัดโฆสิตาราม มาอีกนิดเดียวประมาณ 80 เมตร ก่อนถึงถนนใหญ่ อยู่ทางขวามือเลี้ยวเข้าไป เส้นทางอาจจะสังเกตยากสักหน่อย
ศาลาที่เก็บสังขารของหลวงปู่ เข้าไปทางซ้ายมือ เลยห้องน้ำวัดขี้นไปอีก ศาลาจะอยู่ขวามือ ดูจากภายนอกแทบจะไม่รู้ว่าเป็นสถานที่เก็บโลงแก้วหลวงปู่ เพราะจะเหมือนกุฏิหลังใหญ่มากกว่า สภาพเก่าคร่ำคร่า สงบนิ่ง แต่เมื่อได้เปิดประตูศาลาเข้าไปด้านใน กลับโอ่โถง สะอาดสะอ้าน พื้นห้องเป็นมันวาว แทบไม่มีฝุ่นให้เห็น เครื่องของต่างๆ จัดวางเป็นสัดส่วน เป็นระเบียบเรียบร้อย
หลังจากที่กราบหลวงปู่เย็นเสร็จแล้ว ก็เดินไปดูที่ตู้วัตถุมงคล ได้เหรียญทองแดง หลังไตรมาศ ๓๔ และ ธงยอดฉัตร ติดมือกลับมา สังเกตล้อมกรอบของเหรียญ เห็นเป็นอักษรตัว พ เรียงล้อมรอบ ก็เป็นเป็นปริศนาธรรมที่น่าสนใจสำหรับผม
ดูราคาวัตถุมงคลของหลวงปู่เย็น ไม่ว่าจะเป็น เหรียญ, รูปถ่าย และ ธง ส่วนตัวผมรู้สึกว่าถูกมาก แค่หลักร้อยเท่านั้น เทียบไม่ได้คุณค่าที่เป็นของที่หลวงปู่ท่านอธิษฐานจิตก่อนมรณภาพทั้งนั้น ต่อไปจะหาได้ยาก และจะแพงขึ้นไปมากกว่านี้หลายเท่าตัวแน่
ผมกลับเข้ากรุงเทพ ด้วยใจที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังความเชื่อมั่นในบุญกุศล ที่ได้จากหลวงพ่อกวย และหลวงปู่เย็น ถือเป็นการเดินทางที่แสนคุ้ม ไม่เหนื่อย พอถึงร้านช่วงบ่ายๆ ผมเอาธงยอดฉัตรของหลวงปู่เย็น ขึ้นหิ้งบูชาคู่กับรูปหลวงพ่อกวย เย็นวันนั้นลูกค้าผมมากันเต็มร้าน กระทั่งปิดร้าน พอเป็นนิมิตรหมายที่ดีให้รู้ว่า มีของดีเข้าร้าน
สำหรับท่านที่สนใจวัตถุมงคลของหลวงปู่เย็น ผมแนะนำว่าควรหาเก็บเสียแต่ตอนนี้ ราคาเบาๆ แต่มากด้วยคุณวิเศษจริงๆ
อีกไม่กี่วันข้างหน้า ผมว่าจะไปกราบท่าน และหลวงพ่อกวย อีก ไปงานเดียวได้กราบพระสุปฏิปันโนถึง 2 องค์ แม้ท่านจะลาลับดับขันธ์กันไปแล้ว แต่พลังแห่งเมตตาบารมีของท่านยังคงอยู่ เป็นที่ประจักษ์ใจผม ซ้ำแล้วซ้ำอีก จนหมดความสงสัย
ด้วยจิตคารวะ
ศิษย์แพร่ง