๒.หลวงพ่อเอาะ วัดม่วง จังหวัดสิงห์บุรี
หลวงพ่อเอาะท่านนี้เป็นผู้ที่มีความคุ้นเคยกับหลวงพ่อเคลือบมาก่อนแล้ว และตามประวัติเท่าที่สืบค้นได้ปรากฎว่าในสมัยที่หลวงพ่อเอาะท่านยังเป็นพระภิกษุหนุ่มอยู่นั้น ท่านก็เคยจาริกธุดงค์มาทางแถบนี้และได้ถูกชาวบ้านอาราธนานิมนต์ให้มาเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดกุดจอก(ศรีสโมสร) อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาทอยู่ระยะหนึ่ง และได้เป็นผู้ริเริ่มวางรากฐานการก่อสร้างพระอุโบสถขึ้น จนกระทั่งได้เป็นศาสนสถานที่สำคัญในการประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนามาจนถึงปัจจุบัน หลวงพ่อเอาะท่านนี้นับได้ว่าเป็นพระที่มีอานุภาพจิตสูงท่านหนึ่ง เพราะในขณะที่ท่านทำการเพ่งกระแสจิตบริกรรมคาถาปลุกเสกเหรียญรุ่นนี้อยู่นั้น แค่เพียงชั่วอึดใจก็เกิดเสียงลั่นดัง “ปุ้ง” ขึ้นมา เหรียญทั้ง ๑,๘๐๐ เหรียญกระเด็นขึ้นจากถาดเสมือนมีใครเอาท่อนไม้ขนาดใหญ่มากระแทกก้นถาดโดยแรง เมื่อเหรียญหล่นกลับมายังพื้นถาดแล้ว เหรียญทุกเหรียญก็ยังคงสั่นไหวอยู่ตลอดเวลาคล้ายกับผึ้งแตกรังแล้วบินกลับมาจับรังใหม่อย่างไรอย่างนั้น เมื่อหลวงพ่อเอาะท่านเสกเสร็จแล้วท่านก็กล่าวกับหลวงพ่อศักดิ์เป็นสำเนียงลาวว่า “ดีสาดท่านเคลือบนี่แรงแท้เน๊าะ” และท่านก็ยังบอกอีกว่าหากทีหลังจะทำอีกก็ไม่ต้องเอาไปให้ใครเขาเสกหรอก ใครจะไปเสกดีเท่าท่านเจ้าของเหรียญอีกเล่า แล้วท่านก็บอกวิธีการอาราธนาบารมีหลวงพ่อเคลือบให้มาทำการปลุกเสก