ส่วนองค์ที่ผิวองค์พระเป็นสีดำนั้น ส่วนมากเท่าที่พบเห็นจะเป็นพระกริ่งชุดกระแสแดงเป็นส่วนมาก
เนื่องจากไม่มีผิวเงินมาปกคลุมผิว จึงทำให้ผิวโดนอากาศ และกลับดำในที่สุด
เนื้อนวะโลหะที่ผสมสูตรได้ดีจริง ๆ มีส่วนผสมทองคำมาก ก็จะกลับดำแบบนี้แหละครับ
หากส่วยผสมของงนวะโลหะไม่ดีจริง ๆ จะไม่กลับดำแบบนี้ ดังนั้นพระกริ่งชุดที่ออกสีนาก
ทิ้งไว้นาน ๆ ในที่ ๆ มีอากาศถ่ายเทก็จะสามารถกลับดำได้เช่นกัน
พระกริ่งชุดกระแสขาวก็ใช่ว่าจะไม่กลับดำนะครับ กลับดำเหมือนกันหากทำการปลอกผิวองค์พระออกมา
โดยสังเกตุได้ที่ เนื้อในของพระกริ่งชุดกระแสขาว ดูตรงก้นองค์พระจะออกกระแสแดงเช่นกัน
หากจับไปจับมาก็จะกลับดำเช่นกันครับ
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงทำให้ พระกริ่งอุดมความสุข มีหลายสีหลากสีสัน
เป็นผลมาถึงเรื่องการตอกเลข โดยที่พระกริ่งชุดกระแสขาวจะตอกตัวเลขตัวใหญ่
ส่วนพระกริ่งชุดกระแสแดงจะตอกตัวเลขตัวเล็ก ซึ่งก็เป็นความคิดของคุณธงชัย นั้นเอง
ที่มีการจัดสร้างรัดกุม เพราะพระกริ่งชุดที่ตอกตัวเลขตัวใหญ่เป็นพระกริ่งที่หล่ออกมาก่อนในครั้งแรก
จึงได้รับการปลุกเสกก่อนในวันที่ ๑๔ ก.พ.๔๐ ซึ่งปลุกเสกพร้อมกับวัตถุมงคลแบบอื่น ๆ ภายในรุ่น
โดยปลุกเสกที่ เชียงใหม่ ส่วนพระกริ่งกระแสแดงที่ตอกตัวเลขเล็ก ปลุกเสกวันที่ ๒๑ ก.พ.๔๐
ที่วัดธาตุมหาชัย