มา...ตามคำสัญญา ครับ
ก่อนอื่นผมต้องขอโทษพี่ๆ ทุกท่านด้วยนะครับที่ทำให้เข้าใจผิดว่าผมเป็นคนร่วมยุคกับหลวงพ่อเชื้อ...
คือจริง ๆ แล้วสมเด็จองค์ที่พี่ๆ เห็นกันนั่นน่ะครับผมได้รับผมจากลุงของผมอีกทีนึง ซึ่งแกได้รับมากับมือหลวงพ่อเชื้อครับ
(ผมไม่ได้ตั้งใจโกหกนะครับ) เพราะแกชอบพระ ชอบสะสม แกเลยได้ไปกราบหลวงพ่อหลายครั้ง เช่าวัตถุมงคลมาก็มาก เช่ามาเกือบทุกอย่างที่หลวงพ่อสร้างครับ..ลูกหลานแกเยอะ ตกทอดถึงมือผมไม่กี่ชิ้นเอง ครับ
เข้าเรื่องเลยนะครับ...ลุงผมเคยไปกราบหลวงปู่เชื้อเมื่อช่วงประมาณ พ.ศ. 18 ครับ (หมวดบอล) เห็นพ.ศ.แล้วเป็นไงบ้างครับ....??
ตอนที่ลุงผมไปกราบหลวงพ่อเชื้อแกบอกว่า หลวงพ่อไม่ได้ได้อยู่ที่กุฏินะครับ...ท่านใช้ศาลาวัดเป็นที่จำวัตรครับ...เป็นที่รับกิจ รับญาติโยม
พระลูกวัด กรรมการ ชาวบ้าน ช่วยกันเอาไม้มากั้นเอาจีจรมาบัง ที่ศาลานั่นแหละครับ แล้วเวลาหลวงพ่อ ต้อนรับญาติโยมก็ที่นั่นเลย ครับ
ไม่มีพิธีรีตอง เรียบง่าย เข้าพบง่าย คุยดี ต้อนรับลูกศิษย์ทุกชั้น วรรณะ ไม่มีคนรวยคนจน
เรื่องวัตถุมงคล ไปหยิบเอาจากตู้บูชา ก็จะมีพระลูกวัด คอยดูแล แล้วก็ใส่พานมาให้หลวงพ่อมนต์อีกที...เรื่องเงินเรื่องทองหลวงพ่อไม่ยินดี ไม่แสดงท่าทีโลภ หลวงพ่อแสดงออกถึงความเมตตาที่มีต่อลูกศิษย์มาก ๆ ครับ
ส่วนเรื่องที่คุยอะไรกับหลวงพ่อบ้างลุงบอกว่า...คุยไปเรื่อยครับ...ทุกเรื่อง หลวงพ่อเข้าหาง่าย ครับ ไม่ถือตัว
วัตถุมงคลหลวงพ่อ พุทธคุณเด่นด้านโชคลาภ เมตตา เกื้อหนุนคนจนครับ.....
แต่แคล้วคลาด รอดตาย ปลอดภัยก็ไม่แพ้กันครับ....พี่ ๆ คงทราบดี
ยกตัวอย่างเรื่องที่ลุงเล่านะครับ.....
เมื่อสมัยสิบกว่าปีก่อน ลุงผมคนเดิมแหละครับเล่าให้ฟังว่าแกนอนดูทีวีอยู่ที่บ้าน รายการทีวีได้ไปสัมภาษณ์ คุณสดใส รุ่งโพธิ์ทอง พี่ ๆ คงรู้จักกันดี...นักร้องชื่อดัง....รักน้องพร นั่นแหละครับ....รายการถามคุณสดใส ว่ามีเครื่องรางหรือว่าวัตถุมงคลของหลวงพ่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวหรือแรงบรรดาลใจในการทำงานบ้างมั้ย...?? คุณสดใสก็หยิบ ผ้ายันต์ช้างออกมาโชว์เลยครับ... แล้วก็บอก ผ้ายันต์ผืนนี้นี่แหละครับที่ทำให้ผมมีวันนี้
......