ผู้เขียน หัวข้อ: (((((((((((( ผ่า... ตะกรุดหลวงพ่อคำ วัดหัวทะเล )))))))))))))  (อ่าน 57718 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 6 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฝุ่นดิน

  • สมาชิก
  • *****
  • Thank You
  • -Given: 0
  • -Receive: 2
  • กระทู้: 668
  • พลังน้ำใจ 2
  • ฝุ่นดินท้องถิ่นนิยม 084-7208460
Re: (((((((((((( ผ่า... ตะกรุดหลวงพ่อคำ วัดหัวทะ
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: เมษายน 30, 2014, 02:05:06 pm »
ระเบิดวงไพ่
( สัมภาษณ์เมื่อ ๒๙ เมษายน ๕๖ )
       ประสบการณ์นี้ได้รับการถ่ายทอดจากผู้ใหญ่บรรจง กวางแก้ว อายุ ๕๘ ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๔ บ้านหลั่น  ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท  หนึ่งในผู้รอดชีวิต หวุดหวิดราวปาฏิหาริย์ ในเหตุการณ์ระเบิดกลางวงไพ่ ที่เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๑ เหตุเกิดที่บ้านของนายสังวาลย์  คงมาก บ้านเลขที่ ๑๑๒ หมู่ ๔ บ้านหลั่น  ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท  ขณะนั้นเวลาประมาณ ๒๒.๐๐ น. มีการนัดเล่นการพนันสังสรรค์ ระหว่างเพื่อนบ้านมีผู้อยู่ในเหตุการณ์ขณะนั้นประมาณ ๑๐ กว่าคน ประกอบด้วยวงใหญ่ซึ่งกำลังเล่นไพ่ ประเภทประสมสิบ มีสมาชิกในวงทั้งหมด ๗ คน เรียงชื่อตามลำดับการนั่งดังนี้
      ๑. ผู้ใหญ่บรรจง  กวางแก้ว(ผู้เล่า) ซึ่งขณะนั้นยังเป็นหนุ่มรุ่นอายุประมาณ ๒๑ปี  ยังไม่ได้รับตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน
      ๒.นายทองดี พุทธรักษา
      ๓. เด็กหนุ่มวัยรุ่นเจ้าของระเบิด (ขออนุญาตไม่เอ่ยนาม)
     ๔.นางมาลี (ไม่ทราบนามสกุล)
     ๕.นายเล็ก (ไม่ทราบนามสกุล)
     ๖.นางละเมียด ฟั่นนาง
     ๗. นายช้าง  ชังชั่ว
     ส่วนคนอื่นๆนอกจากนี้  อยู่ในบริเวณรอบๆวง  เหตุเกิดเพราะเด็กหนุ่มวัยรุ่นหนึ่งในผู้เล่นที่นั่งเล่นอยู่ในวงใหญ่  พกพาระเบิดติดตัวมาด้วยเป็นระเบิดชนิดลูกเกลี้ยง แต่เป็นระเบิดชำรุดซึ่งเจ้าตัวใช้หนังสติ๊กรัดกระเดื่องเอาไว้ มิหนำซ้ำยังอยู่ในอาการมึนเมา  เมื่อนั่งเล่นได้สักพักคงจะเกิดอาการเมื่อยเจ้าตัวจึงขยับตัวเปลี่ยนอิริยาบถและอาจจะด้วยรู้สึกรำคาญลูกระเบิดที่เจ้าตัวใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ด้านหน้า จึงล้วงลูกระเบิดออกจากกระเป๋ากางเกง แต่ด้วยอาการมึนเมาจึงทำให้ลูกระเบิดลื่นหลุดมือ ระเบิดที่ชำรุดอยู่แล้วก็เกิดระเบิดขึ้นท่ามกลางวงไพ่ เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ชาวบ้านที่กำลังรูดข้าวอยู่ในขณะนั้นและชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงต่างวิ่งกรูกันมายังสถานที่เกิดเหตุอย่างแตกตื่น  สิ้นเสียงระเบิดปรากฏว่ามีผู้เสียชีวิตทันที  ๓  ศพคือ ๑.เด็กหนุ่มเจ้าของระเบิด ๒.นางมาลี ๓.นายเล็ก สภาพศพเละเทะน่าสยดสยอง บาดเจ็บสาหัส ๓ คน หลังนำส่งโรงพยาบาลแล้วเสียชีวิตอีกหนึ่งคน รวมเสียชีวิตทั้งสิ้น ๔ ศพ นอกนั้นก็บาดเจ็บชนิดเลือดตกยางออกมีบาดแผลกันทุกคนมากบ้างน้อยบ้าง แต่ปรากฏว่ามีอยู่ ๔ คนที่ไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใดเลย คือ
    ๑.นายทองดี พุทธรักษา
    ๒.ผู้ใหญ่บรรจง  กวางแก้ว
    ๓.นายช้าง ชังชั่ว
    ๔.เด็กชายจำรัก ร้องรำ (ลูกชายของนางมาลี)
    และที่สำคัญบุคคล ๓ ใน ๔ นี้เป็นผู้เล่นที่นั่งเล่นอยู่ในวงใหญ่ใกล้กับจุดที่ลูกระเบิดตกเพียงไม่กี่คืบ   โดยเฉพาะนายทองดี พุทธรักษา ซึ่งนั่งอยู่ติดกับเด็กหนุ่มเจ้าของระเบิดที่เสียชีวิตคาที่ร่างเละ แต่นายทองดีกลับไม่มีบาดแผลแต่อย่างใดเลย  ทั้งๆที่สะเก็ดระเบิดพุ่งเข้าประทะอย่างจังทั้งแถบตั้งแต่น่องขา โคนขา  ชายโครง จนถึงกกหู ความแรงของระเบิดทำให้ด้ามปืนที่นายทองดีพกมาด้วยฉีกกระจุย แต่ร่างกายของนายทองดีไม่ปรากฏบาดแผลแต่อย่างใด มีเพียงรอยไหม้เป็นจ้ำๆคล้ายโดนธูปจี้ ในเอวของนายทองดีมีตะกรุดโทนเชือกดิบติดตัวอยู่ดอกเดียว ส่วนผู้ใหญ่บรรจง  กวางแก้ว นั่งต่อจากนายทองดี ด้านหลังของผู้ใหญ่เป็นเสาบ้าน สภาพของเสาบ้านปรากฎรอยแผลที่เกิดจากแรงสะเก็ดระเบิดพรุนไปทั้งเสาคล้ายถูกสิ่วสกัด แต่ตัวของผู้ใหญ่เองไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย ไม่ทราบสะเก็ดระเบิดรอดตัวแกแล้วไปโดนกกเสาได้อย่างไร  เช่นเดียวกันกับนายช้าง ชังชั่วซึ่งนั่งต่อจากผู้ใหญ่ฯ ก็ไม่ได้รับอันตรายแม้ปลายเล็บเช่นกัน  ในคอของบุคคลทั้งสองมีเพียงรูปหล่อหลวงพ่อคำรุ่นแขนทะลุ (ผู้ใหญ่เรียกรุ่นจักกะแร้โบ๋) คนละองค์เท่านั้น ส่วนเด็กชายจำรัก ร้องรำลูกชายของนางมาลี ซึ่งก็นั่งอยู่ใกล้ๆกับนางมาลี  ก็ไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใดเช่นเดียวกัน ผู้ใหญ่ฯจำได้คร่าวๆว่าเด็กชายจำรักมีล๊อคเกทหลวงพ่อคำติดตัวอยู่ เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อคำดังยิ่งกว่าเสียงของระเบิดไม่รู้จักกี่เท่าตัว เรื่องเล่าจากปากต่อปากขจรขจายออกไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนทั่วสารทิศต่างหลั่งไหลไปยังวัดสุวรรณรัตนาราม (หัวทะเล) ไม่ขาดสาย  เพื่อบูชาของดีของหลวงพ่อ
    หลังจากเหตุการณ์สงบผู้ใหญ่ได้ไปกราบหลวงพ่อด้วยระลึกถึงพระคุณท่านและเพื่อเล่าเหตุการณ์ให้ฟังก่อนกลับผู้ใหญ่ยังให้หลวงพ่อเป่ารูปหล่อรุ่นแขนทะลุองค์ประสบการณ์ที่ตนแขวนติดตัวอยู่เสมออีกครั้ง เมื่อเป่าเสร็จหลวงพ่อออกปากว่า  “องค์น้อยๆเนี่ยขลังดีนักนะโยม” เป็นประกาศิตตอกย้ำความศักดิ์สิทธิ์ของรูปหล่อรุ่นนี้อีกคำรบหนึ่ง
ผู้ใหญ่ฯเล่าว่าได้ไปเช่าวัตถุมงคลครั้งแรกพร้อมกับน้าชายของท่านตั้งแต่ปี ๒๕๑๘ น้าชายของท่านเป็นทหารเสือพราน ไปเช่าตะกรุดโทนของหลวงพ่อเพื่อติดตัวไปรับจ้างรบในสมรภูมิภูหินร่องกล้า (ค่าจ้างในสมัยนั้น วันละ ๕๐ บาท ) ผลปรากฏว่าน้าชายของท่านรอดตายกลับมา ในขณะที่เพื่อนๆคนอื่นซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกันตายหมด ส่วนน้าชายของท่านสามารถผ่านห่ากระสุนเหล่านั้นมาได้ มีอยู่เพียงเม็ดเดียวที่ทะลุผิวหนังแล้วเข้าไปคาอยู่ที่หน้าขาพอได้เป็นอนุสรณ์อยู่เม็ดหนึ่งเท่านั้น ภายหลังเมื่อกลับจากรบแล้วยังมีเพื่อนทหารอีกหลายท่านที่ประจักษ์ในอานุภาพตะกรุดโทนของหลวงพ่อ ติดตามน้าชายของท่านมาเช่าตะกรุดหลวงพ่อติดตัวกลับไปด้วย  ส่วนตัวผู้ใหญ่ในครั้งนั้นเช่ารูปหล่อโบราณหลัง นว.มาหนึ่งองค์ราคาในขณะนั้น ๓๐ บาท และพอจำได้ว่าวัตถุมงคลที่มีอยู่ในขณะนั้นเท่าที่พอจำได้มีดังนี้
    ๑.รูปหล่อหลัง นว.ราคา ๓๐ บาท (ส่วนรุ่นหลัง นครสวรรค์ ตอนนั้นยังไม่มี ช่วงปลายปีจึงมี ดังนั้นทั้งรุ่นหลัง นว.และหลัง นครสวรรค์ อาจสร้างขึ้นในราวปี๑๘-๑๙ ไม่ใช่ปี๐๖อย่างที่เคยเข้าใจ)
    ๒.เหรียญกลมหลังสิงห์ใหญ่ ราคา ๓๐ บาท
    ๓.ตะกรุดโทนเชือกดิบ ราคา ๙๙ บาท
    ๔.มีดหมอด้ามงาฝักงาขนาดปากกา และมีดหมอด้ามไม้ฝักไม้ขนาดพก
    ๕.ปลัดขิกนางแอ่นไม้งิ้วดำ
   ๖.รูปหล่อสังฆาบิด ( ผญ.เล่าว่าตอนนั้นหลวงพ่อบอกว่ารุ่นนี้เหลือน้อยแล้วนะโยม) ราคา ๒๕ บาท
   และที่สำคัญตั้งแต่ปี ๒๕๑๘ จนถึง ๒๕๒๐ ยังไม่พบว่ามีรูปหล่อรุ่นแขนทะลุ จนกระทั่งผู้ใหญ่ฯไปนมัสการหลวงพ่อเมื่อปี ๒๕๒๑จึงเห็นว่ามีรูปหล่อรุ่นแขนทะลุวางให้บูชา จึงบูชามาและกลายเป็นองค์ประสบการณ์ดังที่เล่ามาแล้วนี่เอง
      มีเกร็ดเล็กๆน้อยๆอีกประการหนึ่งเกี่ยวกับรูปหล่อรุ่นแขนทะลุ ผู้ใหญ่ฯบอกว่าหลวงพ่อท่านจะเรียกรูปหล่อรุ่นแขนทะลุนี้ว่า “รุ่น ๕ เสาร์” ซึ่งผู้ใหญ่ฯไม่เคยได้ยินก็ยังแย้งหลวงพ่อว่า “รุ่นเสาร์ ๕” รึปล่าวครับ หลวงพ่อก็ยังยืนกรานว่า “รุ่น ๕ เสาร์” คือเดือนหนึ่งโดยทั่วไปจะมี ๔ เสาร์ แต่เดือนนั้นจะพิเศษตรงที่มี ๕ เสาร์ คำว่า ๕ เสาร์นี้ ผู้เขียนมาพบในเหรียญกลมใส่แว่นของหลวงพ่อ ระบุด้านหลังเหรียญว่า “รุ่นพิเศษ ๕ เสาร์ พ.ศ.๒๕๒๑” จึงเป็นเหตุผลสนับสนุนให้เด่นชัดยิ่งขึ้นว่า รูปหล่อรุ่นแขนทะลุนี้น่าจะสร้างในปี ๒๕๒๑
     [/b][/size][/color]

    เกี่ยวกับรุ่นหลัง นว. เป็นเพียงข้อสันนิษฐานนะครับ อย่าเพิ่งยึดปี พ.ศ.ที่ระบุซึ่งยังไม่ชัดเจนในขณะนี้ เพียงแต่เข้าใจว่าน่าจะมีการสร้างมากกว่า ๑ ครั้ง คือครั้งแรกในปี ๐๖ นั้นถูกแล้วแต่นอกเหนือจากนี้ยังไม่ทราบชัด

ออฟไลน์ gigzalove

  • สมาชิก
  • **
  • Thank You
  • -Given: 0
  • -Receive: 0
  • กระทู้: 83
  • พลังน้ำใจ 0
Re: (((((((((((( ผ่า... ตะกรุดหลวงพ่อคำ วัดหัวทะ
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: มกราคม 29, 2015, 08:40:31 pm »
ขอเผยแพร่ประวัติหลวงพ่อคำ ชาตสุโข ที่บางท่านยังไม่รู้ ข้อมูลที่จะเล่าต่อไปนี้ได้มาจาก หลวงพ่อปลอด วัดหนองหม้อ ศิษย์และลูกบุญธรรมหลวงพ่อคำ ที่หลวงพ่อคำให้ความไว้ใจและมอบหมายให้จัดงานศพให้ท่าน ทั้งยังคอยช่วยหลวงพ่อคำ สร้างวัตถุมงคลต่างๆคู่กับหลวงพ่อผินะ เมื่อครั้งอดีต

#ประวัติเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระอาจารย์ของหลวงพ่อคำ
1.หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
หลวงพ่อปลอดเล่าว่า หลวงพ่อคำเคยศึกษาการเขียนอักขระขอมและเรียนเขียนภาษาไทย จากหลวงพ่อเงินเมื่อครั้งยังหนุ่ม ช่วงปี พ.ศ.2460-2461

2.หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล  (พระอาจารย์ของหลวงปู่มั่น)
พอหลวงพ่อคำอุปสมบท เมื่อปี 2482 ท่านก็ออกธุดงค์ไปกราบหลวงปู่เสาร์ เพื่อเรียนกรรมฐาน ท่านอยู่นั้นนานพอสมควร ด้วยเหตุนี้เองจึงคลายสงสัยว่า หลวงปู่แหวนและหลวงพ่อคำรู้จักกันได้อย่างไร

3.หลวงพ่อทิม วัดบ้านบน
ในส่วนนี้หลายท่านคงพอทราบกันมั้งแล้ว แต่ขอเพิ่มเติมสักนิดหน่อย หลวงพ่อทิมนั้นท่านเป็นศิษย์เอกหลวงพ่อทอง วัดเขากบ และเชี่ยวชาญกรรมฐาน และสำเร็จวิชาผงปถมัง อย่างเอกอุ แต่ท่านไม่นิยมสร้างวัตถุมงคล แต่หลวงพ่อคำท่านสร้างวัตถุมงคลเพราะท่านต้องสร้างวัดหัวทะเล(วัดสุวรรณรัตนาราม)

และอาจมีอีกหลายองค์ถ้าท่านใดมีข้อมูลอื่นๆร่วมแชร์กันได้เลยครับ

กระดานสนทนาเว็บไซต์ ศิษย์หลวงพ่อกวย

Re: (((((((((((( ผ่า... ตะกรุดหลวงพ่อคำ วัดหัวทะ
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: มกราคม 29, 2015, 08:40:31 pm »

 


Facebook Comments