หลวงพ่อเคน วัดดงเศรษฐี อาจารย์ของหลวงพ่ออีกองค์

[hooligan1979]

 เคยอ่านประวัติท่านเจ้าคุณผล วัดหนัง ก็ยังเคยธุดงค์มาเรียนวิชากับหลวงพ่อเคน วัดดงเศรษฐี

[hooligan1979]

    ครั้งที่อดีตเจ้าอาวาสวัดหนัง พระสุนทรศีลสมาจารย์ หรือที่เราคุ้นเคยว่า ท่านเจ้าคุณผลวัดหนังราชวรวิหาร เขตบางขุนเทียน ศิษย์เอกท่าน
เจ้าคุณเฒ่าหรือหลวงปู่เอี่ยม เมื่อครั้งธุดงค์เดินทางมาถึงวัดค้างคาว เพื่อรอพบ หลวงพ่อเฒ่า ท่านหลวงพ่อเฒ่ายังบอกให้เดินทางไปกราบ
หลวงพ่อเคน วัดดงเศรษฐี ท่านเป็นพระที่มีวิชาอาคมดี วาจาสิทธิ์ แสดงให้เห็นถึงว่า หลวงพ่อเคน สมัยนั้นชื่อเสียงท่านก็เป็นที่เลื่องลือใน
ความศักดิ์สิทธิ์

[บอล อุทัย]

    ครั้งที่อดีตเจ้าอาวาสวัดหนัง พระสุนทรศีลสมาจารย์ หรือที่เราคุ้นเคยว่า ท่านเจ้าคุณผลวัดหนังราชวรวิหาร เขตบางขุนเทียน ศิษย์เอกท่าน
เจ้าคุณเฒ่าหรือหลวงปู่เอี่ยม เมื่อครั้งธุดงค์เดินทางมาถึงวัดค้างคาว เพื่อรอพบ หลวงพ่อเฒ่า ท่านหลวงพ่อเฒ่ายังบอกให้เดินทางไปกราบ
หลวงพ่อเคน วัดดงเศรษฐี ท่านเป็นพระที่มีวิชาอาคมดี วาจาสิทธิ์ แสดงให้เห็นถึงว่า หลวงพ่อเคน สมัยนั้นชื่อเสียงท่านก็เป็นที่เลื่องลือใน
ความศักดิ์สิทธิ์

ขอบคุณมาก ๆ ครับพี่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

[ฝุ่นดิน]

ประวัติหลวงพ่อเฒ่าปั้น วัดคังคาว ซึ่งถ่ายทอดมาจากพระอาจารย์จิ๊ วัดคังคาว ว่าคนเก่าๆเล่าสืบทอดกันมาว่าท่านเป็นชาวบางปลาสร้อย จ.ชลบุรี เกิดในสมัยอยุธยา เคยเป็นทหารของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ภายหลังสงครามได้บวชเรียนที่จ.อยุธยาแล้วเดินรุกขมูลไปเรื่อยๆกับสหธรรมิก อีกหนึ่งรูปชื่อหลวงพ่อแป้นรูปร่างขาวสูง ส่วนตัวหลวงพ่อปั้นนั้นรูปร่างล่ำแบบมะขามข้อเดียวผิวคล้ำ โดยร่วมกันบูรณะวัดวาอารามไปทั่ว และเมื่อตอนที่ท่านมาถึงบริเวนแม่น้ำน้อยที่สร้างวัด ก็ได้อธิษฐานด้วยการโยนผ้าอาบไปกระทั่งผ้าอาบปลิวตามลมมาตกในบริเวนดังกล่าว ซึ่งเป็นวัดร้างมาก่อน หลวงพ่อเฒ่าปั้นจึงเริ่มรวบรวมศรัทธาก่อสร้างวัดคังคาวขึ้น ส่วนหลวงพ่อแป้นก็ล่องเรือต่อไปทางทิศเหนือแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย
ตอนที่พ่อเฒ่าปั้นท่านล่องเรือมา ท่านมีลิงตัวผู้มาด้วย๑ตัวชื่อ เจ้าหอย ต่อมาคงได้แพร่พันธุ์กับลิงป่าแถววัดจนกลายเป็นฝูงลิงของหลวงพ่อเฒ่าที่ไม่ มีใครกล้าทำอันตรายจวบจนกระทั่งปัจจุบัน หลวงพ่อสวัสดิ์อดีตเจ้าอาวาสท่านก็รักลิงเหล่านี้มาก และเมื่อไม่นานมานี้เจ้าลิงก็ทำแสบแอบขโมยใบลานเทศน์ที่มีลายมือชื่อหลวงพ่อ เฒ่าปั้นไปเล่นฉีกขาดหลุดหายไป ทำให้ขาดหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไปอีกชิ้น
นอกจากพ่อเฒ่าปั้นจะเลี้ยงลิงแล้วท่านยังมีช้างอีกสามเชือกช้าง ๓ เชือกนี้ ชื่อ บุตร ทรัพย์ และ กระสอบ เป็นช้างแสนรู้ มีความกตัญญูสูง นอกจากจะช่วยชักลากไม้และเป็นพาหนะในการเดินทางให้หลวงพ่อเฒ่าแล้ว ทั้งสามยังได้ช่วยกันไปหาฟืนนำมาให้หลวงพ่อเฒ่าและพระในวัดใช้ โดยมิต้องสั่งหรือบังคับแต่อย่างใด  โดยภายหลังได้มอบให้ลูกศิษย์เอกคือหลวงพ่อสงฆ์ วัดสว่างอารมณ์ ไปหนึ่งเชือกคือ พังกระสอบ หลวงพ่อสงฆ์นี้เป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่เมฆ วัดท่าอิฐ   หลวงปู่เมฆ วัดท่าอิฐนี้เป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่เชิญ
ท่านพระอาจารย์จิ๊ยืนยันว่า แต่ก่อนท่านเคยเห็นที่วัดมีตำราคาถาอาคมของหลวงพ่อเฒ่าที่คัดโดยหลวงพ่อสงฆ์ แล้วเขียนระบุไว้เลยว่าหลวงพ่อสงฆ์ท่านเป็นคนคัดแต่ปัจจุบันหายไปบ้างลาง เลือนไปบ้าง
                                    "คัดมาจากศิษย์อริยะ"
พระเจ้าตากสิ้นสงครามใหญ่ปี 2310 ตามประวัติระบุว่าหลวงพ่อเฒ่าบวชหลังสงคราม เต็มที่อย่างไรก็น่าจะมีชีวิตอยู่ไม่เกิน พ.ศ.2400
หลวงพ่อเคน มรณะพ.ศ. 2491 ถ้าตามประวัติระบุไว้ว่าอายุได้ 107ปี แสดงว่าเกิดประมาณ พ.ศ. 2384

***วิเคราะห์ตามข้อมูลนี้แล้วน่าจะคนละยุคกันเลยนะครับ

[dada99999]

ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับข้อมูลที่คุณฝุ่นดินได้วิเคาระห์ไว้ ว่าไม่น่าจะทันยุคกัน

แต่มีข้อมูลหนึ่งที่ได้รับทราบมาคือ ในระหว่างที่หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ ท่าน

ได้ออกหาตัดไม้เพื่อนำกลับไปสร้างเสนาสนะยังวัดของท่าน ซึ่งได้เดินทางมายัง

แถบจังหวัดอุทัย ชัยนาท โดยท่านได้พบเข้ากับหลวงพ่อเคน จึงได้สนทนาและเกิด

ความปิติยินดีในคุณวิเศษซึ่งกันและกัน จนในที่สุดหลวงพ่อเคนได้นำหลวงพ่อขัน

ไปฝากเรียนวิชากับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ดังที่รู้ๆ กันว่าหลวงพ่อขัน

ท่านได้เรียนวิชากับหลวงปู่ศุข นั่นเอง...

เฉพาะจึงแสดงให้เห็นว่าหลวงปู่ศุข กับ หลวงพ่อเคน ท่านทั้งสองก็มีความสนิทสนม

ชอบคอกันอยู่มิใช่น้อย...