ผู้เขียน หัวข้อ: ตำนาน พระสิวลี มาพร้อมกับพระสมเด็จหลังพระสิวลีปั๊มจมพิมพ์ไม่มีย่าม  (อ่าน 18916 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ บอล อุทัย

  • magRizVE
  • ผู้ใหญ่บ้าน
  • สมาชิก
  • *
  • Thank You
  • -Given: 75
  • -Receive: 26
  • กระทู้: 4658
  • พลังน้ำใจ 26
    • Top-notch


ประวัติ พระสีวลีเถระ

พระสีวลีเถระ เอตทัคคะในทางผู้มีลาภมาก
พระสีวลี เป็นโอรสของพระนางสุปปวาสา ราชธิดาแห่งโกลิยนคร ตั้งแต่ท่านจุติลงถือปฏิสนธิในครรภ์ของพระมารดา ได้ทำให้ลาภสักการะเกิดขึ้น
แก่พระมารดาเป็นอันมาก ท่านอาศัยอยู่ในครรภ์ของพระมารดา นานถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน ครั้นเมื่อใกล้เวลาจะประสูติ พระมารดาได้รับทุกขเวทนา
อย่างแรงกล้า พระนางจึงขอให้พระสวามีไปกราบบังคมทูลขอพร จากพระบรมศาสดาและพระพุทธองค์ตรัสประทานพรแก่พระนางว่า:-

“ขอพระนางสุปปวาสา พระราชธิดาแห่งพระเจ้ากรุงโกลิยะ จงเป็นหญิงมีความสุข
ปราศจากโรคาพยาธิ ประสูติพระราชโอรสผู้หาโรคมิได้เถิด”

ด้วยอำนาจแห่งพระพุทธานุภาพ ทุกขเวทนาของพระนางก็อันตรธานไป พระนางประสูติพระราชโอรสอย่างง่ายดาย ดุจน้ำไหลออกจากหม้อ พระประยูรญาติทั้งหลายได้ขนานพระนามพระราชโอรสของพระนางสุปปวาสาว่า “สีวลีกุมาร” เมื่อพระนางมีพระวรกายแข็งแรงดีแล้ว มีพระประสงค์ที่จะถวายมหาทานติดต่อกันเป็นเวลา ๗ วัน จึงจึงความประสงค์แก่พระสวามีให้กราบทูลอาราธนาพระบรมศาสดาพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ มารับมหาทานอาหารบิณฑบาตในพระราชนิเวสน์ ตลอด ๗ วัน ในวันถวายมหาทานนั้น สีวลีกุมาร มีพระวรกายเข้มแข็งดุจกุมารผู้มีพระชนม์ ๗ พรรษา ได้ช่วยพระบิดาและพระมารดาจัดแจงกิจต่าง ๆ มีการนำธมกรก (ธะมะกะหรก = กระบอกกรองน้ำ) มากรองน้ำดื่มและอังคาสพระบรมศาสดาและหมู่พระภิกษุสงฆ์ ในขณะที่สีวลีกุมาร ช่วยพระบิดาและพระมารดาอยู่นั้น ท่านพระสารีบุตรเถระได้สังเกตดูอยู่ตลอดเวลา และเกิดความรู้สึกพอใจในพระราชกุมารน้อยเป็นอย่างมาก ครั้นถึงวันที่ ๗ ซึ่งเป็นวันสุดท้าย พระเถระได้สนทนากับสีวลีกุมารแล้วชักชวนให้มาบวช สีวลีกุมาร ผู้มีจิตน้อมไปในการบวชอยู่แล้ว เมื่อพระเถระชักชวน จึงกราบทูลขออนุญาตจากพระบิดาและพระมารดา เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงติดตามพระเถระไปยังพระอารามพระสารีบุตรเถระ ผู้รับภาระเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้สอนพระกรรมฐานเบื้องต้น คือ ตจปัญจกกรรมฐานทั้ง ๕ ได้แก่ เกสา(ผม) โลมา(ขน) นขา(เล็บ) ทันตา(ฟัน) ตโจ (หนัง) ให้พิจารณาของทั้ง ๕ เหล่านี้ว่าเป็นของไม่งานเป็นของสกปรก ไม่ควรเข้าไปยึดติดหลงใหลในสิ่งเหล่านี้ สีวลีกุมาร ได้สดับพระกรรมฐานนั้นแล้วนำไปพิจารณาในขณะที่กำลังจรดมีดโกนเพื่อโกนผม ครั้งแรกนั้นท่านได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน จรดมีดโกนลงครั้งที่ ๒ ท่านได้บรรลุเป็นพระสกทาคามี จรดมีดโกนลงครั้งที่ ๓ ท่านได้บรรลุเป็นพระอนาคามี และเมื่อโกนผมเสร็จ ท่านได้บรรลุเป็นพระอรหันต์

เมื่อท่านอุปสมบทแล้วปรากฏว่าท่านเป็นพุทธสาวกที่มีลาภสักการะมากมาย ด้วยอำนาจบุญบารมีของท่านที่สั่งสมมา ลาภสักการะเหล่านี้ได้เผื่อแผ่ไปยังพระสงฆ์สาวกท่านอื่น ๆ ด้วย แม้พระบรมศาสดาเมื่อทรงพาหมู่ภิกษุสงฆ์เสด็จทางไกลกันดาร ถ้ามี พระสีวลี ร่วมเดินทางไปด้วย ความขาดแคลนอาหารและที่พักอาศัยในระหว่างทางก็จะไม่เกิดขึ้นแก่หมู่ภิกษุสงฆ์เลย เช่น....

พระพุทธองค์และหมู่ภิกษุอาศัยบุญพระสีวลี

สมัยหนึ่ง พระบรมศาสดาเสด็จพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ จำนวน ๕๐๐ รูปไปเยี่ยมพระเรวตะผู้เป็นน้องชายของพระสารีบุตรเถระ ซึ่งจำพรรษาอยู่ ณ ป่าไม้ตะเคียน เมื่อเสด็จมาถึงทาง ๒ แพร่ง พระอานนท์เถระได้กราบทูลสภาพหนทางว่า.....

“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าเสด็จไปทางอ้อม ระยะทางไกล ๖๐ โยชน์ มีประชาชนอยู่
อาศัยมาก พระภิกษุไม่ลบากด้วยภิกขาจาร แต่ถ้าเสด็จไปทางลัดระยะทางประมาณ ๓๐ โยชน์
ไม่มีประชาชนอยู่อาศัย มีสภาพเป็นป่าใหญ่ มีแต่อมนุษย์อยู่อาศัย พระภิกษุสงฆ์จะลำบากด้วย
ภิกขาจาร”

พระพุทธองค์ ตรัสถามว่า:-

“ดูก่อนอานนท์ พระสีวลีมากับเราด้วยหรือไม่?”
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระเสวลีมากับเราด้วย พระเจ้าข้า”

พระพุทธองค์ ตรัสว่า:-

“ดูก่อนอานนท์ ถ้าอย่างนั้นก็จงไปทางลัด ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวลด้วยอาหาร
บิณฑบาต เพราะเทวดาทั้งหลายที่สิงสถิตอยู่ในป่าระหว่างทาง จะจัดสถานที่พักและอาหาร
บิณฑบาตไว้ถวายพระสีวลีผู้เป็นที่เคารพนับถือของพวกตน เราทั้งหลายก็จะได้อาศัยบุญของ
พระสีวลี นั้นด้วย”

ได้รับยกย่องในทางผู้มีลาภมาก

ด้วยอำนาจบุญที่ท่านพระสีวลี ได้บำเพ็ญสั่งสมอบรมมาตั้งแต่อดีตชาติ เป็นปัจจัยส่งผลให้ท่านเจริญด้วยลาภสักการะ โดยมีเทพยาดา นาค ครุฑ และมนุษย์ทั้งหลาย นำมาถวายโดยมิ
ขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าท่านจะอยู่ในที่ใด ๆ ในป่า ในบ้าน ในน้ำ หรือบนบก เป็นต้นด้วยเหตุนี้ พระพุทธองค์ จึงทรงประกาศให้ปรากฏในหมู่พุทธบริษัทตรัสยกย่องท่านในตำแหน่ง เอคทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทาง ผู้มีลาภมาก นับว่าท่านพระสีวลีเถระเป็นพระมหาสาวกอีกรูปหนึ่งที่ได้ช่วยกิจการ พระศาสนา แบ่งเบาภาระของพระบรมศาสดาเป็นอย่างมาก ท่านดำรงอายุสังขารโดยสมควรแก่กาลเวลาแล้วก็ดับขันธปรินิพพาน

ออฟไลน์ บอล อุทัย

  • magRizVE
  • ผู้ใหญ่บ้าน
  • สมาชิก
  • *
  • Thank You
  • -Given: 75
  • -Receive: 26
  • กระทู้: 4658
  • พลังน้ำใจ 26
    • Top-notch
ในพระพุทธศาสนาของเรากล่าวว่าพระที่อุดมด้วยโชคลาภนั้นมี ๒ องค์ คือ พระสิวลี และพระสังกัจจายน์ เล่ากันว่าในอดีตชาติของทั้ง ๒ ท่านนั้นชอบทำทานเป็นที่สุด ซึ่งอุปนิสัยนี้ตรงกับหลวงพ่อ คือ หลวงพ่อชอบเทศน์กัณฑ์ทานกัณฑ์ของพระเวศสันดร แม้แต่ในตำราพระมาลัยคำหลวงยังได้กล่าวว่าพระมาลัยได้ขึ้นไปบนสวรรค์ได้ไปเฝ้าพระศรีอาริยเมตไตย พระศรีอารย์ยังได้สั่งพระมาลัยให้มาบอกโลกมนุษย์ว่า ถ้าใครปารถนาจะเกิดในศาสนาของพระองค์ ให้บริจาคทานทำทานมีจิตเป็นกุศลแบบพระเวศสันดร ภายหลังเมื่อหลวงพ่อได้เรียนวิปัสนากรรมฐานสำเร็จ หลวงพ่อยังสามารถติดต่อกับพระสิวลี และพระสังกัจจายน์ได้ และหลวงพ่อยังได้วาดรูปลายเส้นเป็นรูปดวงแก้วพระสิสลีเอาไว้ด้วยซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน หลวงพ่อยังทำธงพระสิวลี ปักไว้ที่กระถางสำหรับบูชา หลวงพ่อยังได้เขียนไว้ว่า ฉันเองสวดทุกวัน มิได้ขาดเลย ในใบฝอยของหลวงพ่อจะเขียนว่า ถ้าท่องบ่นเป็นประจำจะมีสง่าราศรีดีขึ้น ซื้อง่ายขายคล่องจะร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี ฉังเองสวดประจำมิได้ขาดเลย ภายหลังหลวงพ่อได้สร้างพระสิวลีขนาดห้อนคอขึ้นมาขนาดใหญ่ก็มี แต่องค์ในภาพนี้เป็นขนาดเล็กเท่าปลายนิ้วก้อย เป็นพิมพ์นิยม(พิมพ์ไม่มีย่ามหายากมาก ๆ มีทั้งเนื้อดำและแดง ) เกี่ยวกับการพกผงพระสิวลีหรือพระสังกัจจายน์ ติดตัวนี้ก็เหมือนกับเราไปไหนก็ไปกับผู้มีบุญบารมี เช่น ไปไหนไปกับผู้หลักผู้ใหญ่ คนอื่นไปเขาเข้าไม่ได้ แต่พอเราไปเรากลับเข้าได้ คนอื่นไปเขาไม่ให้ แต่เราไปเขาให้ คือเขาเกรงใจผู้หลักผู้ใหญ่นั่นเอง แม้แต่ในครั้งพุทธกาลก็มีเรื่องเล่าเอาไว้ คือมีพระสงฆ์ ๒ องค์มาจากวรรณะต่ำเมื่อไปบิณบาตรก็ไม่มีคนใส่บาตร อดอยาก ภายหลังได้มีพระผู้ใหญ่แนะนำว่า ให้ไปหาพระธาตุพระสิวลี หรือกระดูกของพระสิวลีมาติดตัว จะทำให้ไปไหนมาไหนไม่อดอยาก พระ ๒ องค์ก็ปฏิบัตตาม เมื่อไปบิณบาตร ก็ไม่อดไม่อยากอีกเลย ด้วยเป็นเพราะบุญบารมีของพระสิวลีนั้นเอง เท่าที่เล่ามาถึงคุณวิเศษของพระสิวลี และคำกล่าวขานที่ว่าหลวงพ่อสามารถติดต่อกับพระสิวลีได้ ก็นับว่าพระสิวลีที่หลวงพ่อท่านทำนั้นน่าใช้และน่าหามาติดตัวไว้เป็นอย่างยิ่ง แต่ถ้าใครไม่มีก็ให้คาถาบูชาพระสิวลีก็ได้ครับ ดีเหมือนกัน

ออฟไลน์ บอล อุทัย

  • magRizVE
  • ผู้ใหญ่บ้าน
  • สมาชิก
  • *
  • Thank You
  • -Given: 75
  • -Receive: 26
  • กระทู้: 4658
  • พลังน้ำใจ 26
    • Top-notch
อ่านประวัติ แล้วมาชมพระที่หลวงพ่อสร้างไว้กันบ้าง ครับ ได้ทั้งพระสมเด็จได้ทั้งพระสิวลี

ขอเชิญชมองค์จริงได้ที่ชมรมครับผม  ;) ;) ;) ;) ;)

ออฟไลน์ ใจมันรัก

  • สมาชิก
  • *****
  • Thank You
  • -Given: 0
  • -Receive: 1
  • กระทู้: 639
  • พลังน้ำใจ 1
  • เบอร์ติดต่อ 081 4334877
ข้อมูลถูกต้อง ตามอนุพุทธประวัติ ;D ;D ;D
หลวงพ่อกวย เก่งเกรียงไกร ไปได้รอบโลก

ออฟไลน์ toi

  • สมาชิก
  • *****
  • Thank You
  • -Given: 0
  • -Receive: 0
  • กระทู้: 1322
  • พลังน้ำใจ 0
ว่ากันว่า พระสมเด็จพิมพ์ตื้นแบบพิมพ์ใหญ่หลังสิวลีองค์จ้อยพิมพ์มีย่าม,ไม่มีย่าม เป็นพิมพ์มาตรฐาน พิมพ์ที่หลวงพ่อกวยพิมพ์เองครับ สร้างประมาณปี 2515  ทำไม่เกิน 500 องค์ จะเห็นว่าทำน้อยกว่าพระปรกโพธิ์เก้าใบหลังต่างๆรวมกันครับ จึงมีให้เห็นน้อยกว่าพระปรกโพธิ์เก้าใบมากครับ ไม่ค่อยมีใครเอาออกมาให้ดูกันนัก พิมพ์เล็กยิ่งหายากครับ  8) ;D

กระดานสนทนาเว็บไซต์ ศิษย์หลวงพ่อกวย


 


Facebook Comments