เพื่อนผมออกจากงานโดยถูกเลิกจ้างตั้งแต่ มีนาคม 2552 และได้เงินชดเชยมาจำนวนหนึ่ง ก็นำมาลงทุนทำโน่นนี่ พร้อมกับหางานใหม่ไปด้วย ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
ด้วยแรงกดดันในครอบครัว และจิตวิญญาณของนักสู้ ทำให้สุดท้าย ต้องทำแม้งานที่มองว่าต่ำต้อย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เป็นถึงผู้บริหารองค์กรธุรกิจเอกชนมาหลายที่
ผมเป็นคนหนึ่งที่เพื่อนคนนี้จะติดต่อพูดคุยประจำโดยเฉพาะช่วงที่เขาตกต่ำ และเมื่อมีอะไรช่วยได้ ผมก็ไม่รั้งรอที่จะเสียโอกาสนั้นทุกครั้งไป จำได้ว่าเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว เพื่อนก็เคยตกงานมาครั้งหนึ่ง และก็เป็นผมนี่แหละที่แนะนำให้ได้เข้าทำงาน
จนมาครั้งนี้ เมื่อเพื่อนผมตกงานอีกครั้ง ผมช่วยเหลือไม่ได้มากเหมือนเมื่อก่อน นอกจากให้กำลังใจ พาไปทานข้าว และรับฟังปัญหาต่างๆ เพราะผมเองปัจจุบันเมื่อออกจากงานมาทำธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ ก็เปรียบเสมือนขอนไม้ไม่มีเห็ด ใครก็ไม่อยากนับเป็นเพื่อน
หลังจากที่ใช้ความพยายามนานร่วม 8 เดือน แต่เพื่อนผมก็ยังหางานใหม่ไม่ได้สักที ขณะที่เงินทองก็ร่อยหรอลงทุกขณะ
ต่อมา ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน เมื่อผมมีโอกาสเดินทางมากราบหลวงพ่อกวย ชุตินธโร ที่วัด ผมเลยชวนเพื่อนคนนี้เดินทางมาด้วยเพื่อมาขอบารมีหลวงพ่อให้ช่วยเหลือ โดยใช้เส้นทางวงแหวนตะวันตก ผ่านเลี่ยงเมือง จ. สุพรรณบุรี ผ่านบึงฉวาก ทะลุขึ้นไปจนถึงวัด ส่วนขากลับเข้ากรุงเทพฯ เปลี่ยนไปใช้เส้นทางเข้าสิงห์บุรี - อยุธยา เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมได้รับข่าวดีจากเพื่อนว่า ได้งานใหม่แล้วและกำลังจะไปเริ่มงานกับบริษัทต่างชาติ ที่จังหวัดระยอง ในวันที่ 25 พฤศจิกายน
นะสิวัง พรหมา มะอะอุ
ศิษย์แพร่ง