"ราวเดือนพฤศจิกายน ปี 2552 หลังจากงานทำเพลงหลวงพ่อเสร็จสิ้นลงหลายเดือน ทำให้ผมมีโอกาสเดินทางไปกราบหลวงพ่อที่วัดน้อยลง ด้วยงานรัดตัวครับ ทั้งงานวิทยุที่ทำอยู่ งานอัดสปอตโฆษณา งานทำเพลงเขียนเพลง ก็แทบจะไม่มีเวลาได้หายใจหายคอแล้วล่ะครับ ยิ่งช่วงหาเสียงเลือกตั้ง อบต.เทศบาล อัดสปอตกันจนหามรุ่งหามค่ำ วันหนึ่งผมมีโอกาสได้เดินทางไปกราบหลวงพ่อที่วัด ช่วงบ่ายๆ ผมไปคุกเข่าต่อหน้าโลงศพหลวงพ่อและอธิษฐานว่า "ชีวิตของลูกตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจอยู่ ลูกไม่เคยปรารถนาที่จะคล้องพระเครื่ององค์ไหนๆในประเทศนี้ ต่อให้สนนราคาเป็นแสนเป็นล้าน ก็ไม่อยากได้ นอกเสียจากพระเครื่องของหลวงพ่อกวยองค์เดียวเท่านั้น หากหลวงพ่อมีญานที่สามารถรับรู้ถึงจิตใจของลูก หลวงพ่อคงจะทราบได้ดีว่า ลูกรักและศรัทธาหลวงพ่อเป็นที่ตั้ง ลูกปรารถนาที่จะได้เหรียญอัลปาก้าหลังหนุมานเหลือเกิน ขอหลวงพ่อ จงดลบันดาล ประทานแก่ลูกเพื่อไว้ใช้คล้องติดตัว เป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานในการใช้ชีวิตของลูกด้วยเถิด ลูกขอให้สัจจะปฎิณานว่าหากได้สมใจแล้ว ถึงอดตายก็จะไม่ขายเหรียญนี้โดยเด็ดขาด"ผมรำพึงรำพันต่อหน้าโลงศพหลวงพ่อ หลังจากนั้นมาไม่ถึงเดือน ผมไปส่งงานที่ อ.หันคา แล้วเลยไปหาเพื่อนรุ่นพี่ที่ อ.เดิมบางนางบวชในเย็นวันหนึ่ง เขาบอกว่าเพื่อนเขามีเหรียญหลังหนุมานจะปล่อย เลยนัดเจอกันที่ปั๊ม ปตท.อ.เดิมบางฯ ผมได้พบพี่รุ่งทำงานไฟฟ้าเดิมบางฯ นำเหรียญหลังหนุมานของหลวงพ่อมาให้ดู ผมส่องดูก็รู้ทันทีว่า หลวงพ่อมาโปรดแล้ว แท้ สวย ดูง่าย พี่รุ่งเปิดราคา 15,000.-บาท วันนั้นผมไม่มีสตางค์เลย ไม่มีจริงๆ มีติดกระเป๋าพันกว่าบาท จะซื้อพระองค์ละ 15,000.-บาท ต้องบอกว่า แค่คิดก็ผิดแล้ว ในบัญชีธนาคารก็ไม่มีเลย ช่วงนั้นช๊อตๆครับ รับมือซ้าย จ่ายมือขวา ผมลองแกล้งต่อราคาเหลือ 12,000.-บาท ทั้งๆที่ไม่มีเงิน แต่อยากได้ พี่รุ่ง เก็บพระหลวงพ่อทันทีขอตัวลากลับโดยไม่คุยกับผมเลย ผมขับรถกลับบ้าน รู้สึกเสียใจมากเหลือเกินที่พบหลวงพ่อแล้วไม่สามารถนำกลับมาได้ ระหว่างที่ขับรถกลับบ้าน ผมได้แต่รำพึงรำพันต่อหน้ารูปถ่ายหลวงพ่อที่แขวนหน้ารถว่า"ทำไม...ทำไมหลวงพ่อไม่ช่วยผม ทำไม...เจอเหรียญหลวงพ่อแล้วเช่าไม่ได้ ทำไม...ไม่มีเงิน ทีคนอื่นๆไม่เห็นทำประโยชน์อะไรให้กับวัดเลย ทำไม...หลวงพ่อไปช่วยเขา บางคนคล้องเหรีญญฝาบาตร บางคนคล้องเหรียญนะโมตาบอด บางคนคล้องหรือเก็บสะสมเป็นสิบๆเหรียญ แต่ทำไม..หลวงพ่อไม่ช่วยผม" กลับไปบ้านทั้งคืนผมนอนไม่หลับเลย วันรุ่งขึ้นจำได้ว่าราวบ่ายโมง ผมโทรหาหมวดบอล เพื่อถามหมวดว่า ราคาเหรียญหนุมาน 15,000.-บาท ซื้อได้ไหม หมวดบอกผมว่า ถ้าแท้ สวย ดูง่าย ลุยเลยพี่ สิ้นปีนี้ ราคาขึ้นพี่ซื้อไม่ได้นะ คำพูดสั้นๆของหมวดบอลวันนั้นมันทำให้ผมมีกำลังใจ ผมตัดสินใจโทรหาพี่รุ่งอีกครั้งแล้วบอกว่า 13,000.-บาท ได้ไหมพี่ พี่รุ่งตอบตกลง ตอนนั้นราวบ่ายสองโมง พี่รุ่งบอกผมว่า แค่ห้าโมงเย็นวันนี้เท่านั้น เพราะมีคนรอซื้ออยู่เหมือนกัน ผมมีเวลา 3 ชั่วโมง ในการหาเงิน 13,000.-บาท
ทั้งๆที่ในกระเป๋าไม่มีเงินเลยในตอนนั้น ผมตัดสินใจขายไมค์ชัวร์ พร้อมปรีไมค์ ราคา 5,000.-บาท ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ คิดว่าชีวิตนี้ไม่ตายก็ซื้อใหม่ได้ แต่พระหลวงพ่อ หาไม่ได้ โทรไปยืม หัวหน้าสถานีผมอีก 8,000.-บาท รวมเป็น 13,000.-บาทพอดีเป๊ะจำได้ว่ากำเงิน 13,000.-บาท ตอนสี่โมงครึ่งตอนเย็น รีบบึ่งรถไปเดิมบางฯหาพี่รุ่งทันที จ่ายเงินรับพระแขวนขึ้นคอ แต่ดันลืมเผื่อค่าน้ำมัน เงินพอดีเป๊ะ ตายล่ะ..ระหว่างเดินทางกลับตอนค่ำ วันนั้นฝนดันตกลงมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แอร์ก็เปิดไม่ได้เพราะต้องประหยัดน้ำมัน กระจกเริ่มเป็นฝ้า น้ำมันนอนหมอนตก Eผมได้แต่ภาวนาบอกหลวงพ่อว่า ขอให้ลูกขับรถกลับถึงบ้าน โดยน้ำมันอย่าหมด วันนั้นเหตุการณ์คับขันก็จริงเพราะไหนจะเหนื่อยหาเงิน เป็นหนี้เขา น้ำมันในถังก็เหลือน้อยเต็มที แต่ในใจกลับมีความสุขมากเหลือเกิน ผมโทรหาหลวงพี่พระครูปลัดวิชัย ระหว่างเดินทางกลับว่าผมมารับหลวงพ่อกลับชัยนาทบ้านเรา หลวงพ่อมาไกลถึงอ.เดิมบางฯและจะไม่มีวันกลับไปเดิมบางฯอีกแล้วล่ะครับ หลวงพี่หัวเราะชอบใจ...วันนั้นผมกลับถึงบ้านโดยปลอดภัย น้ำมันที่เหลือน้อยนิด แต่สามารถกลับถึงชัยนาทได้อย่างน่าประหลาดจริงๆ ..หลวงพ่อมาโปรดผมแล้วล่ะครับ
กร ขันทอง